บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มีนาคม, 2024

สหรัฐอเมริกา 2

สหรัฐอเมริกา 2

ทุกเวลา33434

ทุกเวลา 33434

เดือนที่ผ่านมา4

เดือนที่ผ่านมา 4

เดือนนี้7

เดือนนี้ 7

เมื่อวานนี้2

วันนี้0

อรหันต์

อรหันต์

นิพพาน

ธรรมดำ

ธรรมกลาง

ธรรมาว

ธรรมดำ

ธรรมกลาง

ธรรมดี

สง

ธรรม

นิพพาน

 นิพพาน

ดี

สหราชอาณาจักร 2 สหรัฐอเมริกา 1

สหราชอาณาจักร 2 สหรัฐอเมริกา 1

https://fb.watch/qON-M7JVPv/

 https://fb.watch/qON-M7JVPv/

https://fb.watch/qON-M7JVPv/

https://fb.watch/qON-M7JVPv/

https://fb.watch/qON-M7JVPv/

https://fb.watch/qON-M7JVPv/

https://fb.watch/qON-M7JVPv/

https://fb.watch/qON-M7JVPv/

https://fb.watch/qON-M7JVPv/

https://fb.watch/qON-M7JVPv/

https://fb.watch/qON-M7JVPv/

https://fb.watch/qON-M7JVPv/

https://fb.watch/qON-M7JVPv/

https://fb.watch/qON-M7JVPv/

https://fb.watch/qON-M7JVPv/

https://fb.watch/qON-M7JVPv/

https://fb.watch/qON-M7JVPv/

https://fb.watch/qON-M7JVPv/

พระพทธเจ้า

พระพทธศาสนา

สหรัฐอเมริกา 2

ธรรมดำ

ธรรมกลาง

ธรรมาว

ธรรมดำ

ธรรมกลาง

ธรรมดี

สง

ธรรม

นิพพาน

ดี

อรหันต์

 อรหันต์

สหราชอาณาจักร 2 สหรัฐอเมริกา 1

สหราชอาณาจักร 2 สหรัฐอเมริกา 1  

สหราชอาณาจักร 2 สหรัฐอเมริกา 1

สหราชอาณาจักร 2 สหรัฐอเมริกา 1  

ขอบคณคำอวยพร

ประวัติ

พระพุทธศาสนา

 พระพุทธศาสนา

พระพุทธเจ้า

พระพุทธเจ้า

นิพพานเป็นอย่างไร กระทู้สนทนา ศาสนาพุทธ ในพระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า 0 0 ความคิดเห็นที่ 1. นิพพานเป็นอย่างไร กระทู้สนทนา ติดตาม ศาสนาพุทธ ในพระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า 0 0 สมาชิกหมายเลข 7881572 1 ชั่วโมงที่แล้ว ------ https://pantip.com/topic/42367614/desktop . . จุดหมายปลายทางของศาสนาพุทธ คือไม่อยากเวียนว่ายตายเกิดอีกแล้ว หมายถึงไปนิพพานใช่ไหม ครัย --------- ความจริง เป้าหมาย คือ การพ้นทุกข์ทั้งมวล คือ พ้นทั้งทุกข์ทางใจ ในชาติปัจจุบัน และพ้นทุกข์ทั้งทางกายและใจ ในอนาคต และนิพพานอยู่ที่ไหน อยู่บนสวรรค์ ---------- นิพพาน คือ สภาวะสงบ สันติสุข ที่รับรู้ด้วยจิตใจ (เหมือนที่ใจ การรับรู้ความสุข ความทุกข์) คือ เมื่อ จิต มีสติ ดู ร่างกาย หรือจิต(เวทนา จิต ธรรม(สิ่งที่เกิดขึ้นในใจ) เห็นการเกิดดับ ไม่คงที่ตลอดเวลา จึงรู้ว่า กายและจิต ไม่คงที่ ไม่คงทน(วิปัสสนาญาณ) จะนับ ณ กายหรือจิตใดๆ ณ เวลาใดๆ ส่าเป็นตัวตนก็ไม่ได้ เมื่อ เห็นความจริง จิตก็ ปล่อยวาง ความยึดถือผิดว่า กายและจิต เป็นตน มรรค 8 ประการ รวมตัวกันในจิต (มัคคสมังคี, มัคคจิต, มัคคญาณ), ตัดกิเลส ที่มีในจิต แต่ละขั้น(4ขั้น) แล้วจิต รับรู้ สภาวะสงบสันติสุข (นิพพาน) นี้ (ผลจิต, จิตญาณ) ทันที เมื่อตัดกิเลส 4 ขั้นแล้ว ก็ไม่มีความยึดถือที่ผิดว่ากายและจิตเป็นตน จิตใจสงบร่มเย็นเย็นตลอดเวลา(เพราะไม่มีเหตุ ทำให้เกิดความทุกข์ใจเลย) เป็นบุคคลที่เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นและสังคมสูงสุด เพราะไม่มีความเห็นแก่ตัวเลย ทำประโยชน์แก่คนอื่น -------- (มรรค(มีองค์ประกอบด้านจิตใจ 8 ประการ)รวมกันในจิตใจเป็นหนึ่งเดียว(มัคคสมังคี, มัคคจิต, มัคคญาณ(อ่านว่า ยาน)) ตัดกิเลส แต่ละขั้น 4 ขั้น มรรค(มีองค์8) เป็นสภาวะทางจิต จึงรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ในจิตได้ เช่น เจตนา ละเว้นจากการ...ทำผิดทางกาย วาจา https://abhidhamonline.org/aphi/p9/099.htm (หน้านี้ คือหน้าที่99) แล้วจิต สัมผัสรับรู้ความสงบสันติสุข(นิพพาน)(จากการหมดความเร่าร้อนของกิเลสและผลของกิเลส) ทันที (ผลจิต, ผลญาณ(อ่านว่า ยาน), บรรลุธรรม) https://abhidhamonline.org/aphi/p9/100.htm (หน้านี้ คือหน้าที่100) ---------- . . และนิพพานอยู่ที่ไหน อยู่บนสวรรค์ หรือไม่มีที่อยู่ ----------- นิพพาน เป็น สภาวะสงบสันติสุข รับรู้ด้วยใจ (เหมือนความสุข ทุกข์ ที่รับรู้ด้วยใจ) (หลังการตัดกิเลสแต่ละขั้น หรือ เมื่อต้องการรับรู้อีก ก็เข้า ผลฌาน) และจิตใจ ที่รู้ความจริง ตัดกิเลส(และรับรู้ นิพพาน) แล้ว เมื่อออกมาสู่ ภาวะปกติ ก็ไม่มีความทุกข์ร้อนใจ(ว่ามีอะไรมากระทบตน) ใจสงบร่มเย็น ทำภาระกิจ ต่างๆ ด้วยความมีสติ ให้ถูกต้อง ตลอดเวลา นิพานคือที่ที่มีแต่ความสุข หรือที่ที่มีแต่ความว่างเปล่า ------- เป็น สภาวะสงบ สันติสุข ที่รับรู้ด้วยใจที่ตัดกิเลสแต่ละขั้นแล้ว หรือ เข้าผลญาณ . . แก้ไขข้อความเมื่อ 10 มกราคม เวลา 18:50 น. ตอบกลับ 0 1 วงกลม 10 มกราคม เวลา 18:46 น. Mahasati Neo ถูกใจ ความคิดเห็นที่ 2เป็นความสุข ถาวร ตลอดกาล โดยที่ไม่มีวันลดน้อยถอยลง ไม่มีความทุกข์หลงเหลืออยู่อีกเลย และเป็นสิ่งที่สามารถเข้าถึงได้ ประจักษ์แจ้งได้ด้วยตัวเราเอง ลองมาปฏิบัติธรรมตามนี้ครับ https://www.dhamma.com/ ตอบกลับ 0 1 เมฆน้อยคอยดาว 10 มกราคม เวลา 18:47 น. Mahasati Neo ถูกใจ ความคิดเห็นที่ 3อันนี้ฟังมาจากครูบาอาจารย์นะครับ นิพพาน สงบ เย็น สันติ สว่าง ว่างไม่มีขอบเขต เป็นอิสระ สะอาด บริสุทธิ์ มีความสุข ไม่เกิดไม่ดับ เป็นสภาวะที่อยู่เหนือเหตุผลของมนุษย์ ตอบกลับ 0 0 สมาชิกหมายเลข 1261517 10 มกราคม เวลา 18:50 น. ความคิดเห็นที่ 4...นิพพาน..คือ การหมดกิเลสโดยสิ้นเชิง ความทุกข์สิ้นสุด ไม่เวียนว่ายตายเกิดในภพภูมิใดๆอีก... ตอบกลับ 0 0 ผีเสื้อพเนจร 10 มกราคม เวลา 19:07 น. ความคิดเห็นที่ 5เพี้ยนปักหมุด ตอบกลับ 0 0 นักลงทุนไวไว 10 มกราคม เวลา 19:16 น. ความคิดเห็นที่ 6ไม่มีใครรู้หรอกครับ เพราะทุกคนที่ยังมีชีวิตก็ไม่เคยนิพพาน คนที่นิพพานไปแล้วก็ไม่เคยกลับมาบอกได้ว่าเป็นอย่างไร ตอบกลับ 0 0 zodiac28 10 มกราคม เวลา 20:12 น. ∨ดู 1 ความเห็นย่อย∨ ความคิดเห็นที่ 7ที่ตรงกันคือ หมดทุกข์ในใจโดยสิ้นเชิง และไม่ต้องมาเกิดอีก นอกจากนั้นไม่ค่อยจะตรงกัน ตอบกลับ 0 0 สมาชิกหมายเลข 5727294 10 มกราคม เวลา 21:27 น. ความคิดเห็นที่ 8พระพุทธเจ้าสอนว่า ไม่ต้องทุกข์อีกแล้ว คือการพ้นทุกข์ถาวร ไม่ทุกข์ทางใจ ไม่ทุกข์ทางร่างกาย หรือทางอื่นๆอีกเลย ตอบกลับ 0 0 สมาชิกหมายเลข 1101943 10 มกราคม เวลา 22:06 น. ความคิดเห็นที่ 9...นิพพาน ไม่ใช่สภาวธรรมที่จะเจอหลังจากตายไปแล้ว ...การเจอนิพพานจะเจอในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ เท่านั้น แต่บางคน เมื่อเจอนิพพานเรียบร้อยแล้ว ก็อาจจะตายทันที ก็พอมีบ้าง ...การเจอสภาวนิพพาน เรียกว่า ได้บรรลุมรรคผล คือ จิตเห็นนิพพานปรากฏ กิเลสก็ถูกทำลายไปพร้อมๆกันในขณะนั้น เช่น ตอนที่เจ้าชายสิทธัตถะ ได้บรรลุธรรมในตอนเช้าวันวิสาขะ เป็นพระพุทธเจ้า ..นั่นแหละ ตอนนั้นพระองค์ได้เห็นนิพพานแล้ว หลังจากนั้น ทรงมีพระชนมายุต่อมานานอีก ๔๕ ปี ตอบกลับ 1 1 ผีเสื้อพเนจร 10 มกราคม เวลา 22:51 น. วงกลม ซึ้ง ความคิดเห็นที่ 10คือความว่างเปล่า ตอบกลับ 0 0 สมาชิกหมายเลข 2009943 10 มกราคม เวลา 23:30 น. ความคิดเห็นที่ 11สวัสดีครับ "นิพพานเป็นอย่างไร" จขกท.เคยดีใจอะไรมาก ๆ หรือเปล่า เช่น กลัวสอบตก แต่ผลออกมา "สอบผ่าน ได้ขึ้นชั้น" หรือกังวลอะไรหนัก ๆ แล้วปัญหา ได้รับการแก้ไข คลี่คลาย จะเกิดอารมณ์ ดีใจ โล่งใจ ปลอดโปร่งใจ ปิติ ชื่นใจ... นิพพานอารมณ์จะเป็นอย่างนั้น แต่มันจะมากกว่านั้นอีกหลายเท่า ภาษาธรรมเรียก ว่า "วูปสโม สุโข" แปลกันว่า "สุขที่ยิ่งกว่าสุข" และอาการอย่างนั้นมันจะอยู่กับเราแบบ ยาวนานตลอดไป (เพราะทุกข์ตัวสุดท้ายมันหมดแล้ว และจะไม่เกิดทุกข์ขึ้นมาอีก) นิพานเป็นอย่างนี้แหละ....โดยประมาณ ............................................................................................................................ ทางคำภีร์ "นิพพาน" จะแบ่งเป็น 2 อย่าง(สองช่วง) คือ 1.ยังมีชีวิตอยู่เหมือนคนปกติ แบบเรา ๆ แต่สภาวะจิตใจหมดทุกข์แล้ว มีอารมณ์เหมือนที่กล่าวแล้ว เรียก "สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ" 2.ต่อมาคนนั้น "ตาย" จริง ๆ ไม่มีลมหายใจ ตายแบบร่างกายเน่าเปื่อย เรียก "อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ" และคนนี้จะไม่มาเกิดอีกแล้ว ปล.จะมีอารมณ์ "นิพพาน" ได้ต้องปฎิบัติตามคำสอนของศาสนาพุทธอย่างถูกต้อง หลัก ๆ คือ ต้องพบสัตบุรุษ(ครู อาจารย์) ที่สอนให้ เรารู้จักทำใจ ในใจ(เรียก โยนิโส มนสิการ) เป็น ขอบคุณครับ ตอบกลับ 0 0 จุ๊ด.จุ๊ด 10 มกราคม เวลา 23:48 น. ความคิดเห็นที่ 12คือความอมตะ ในพระไตรปิฎก มีคำนี้เยอะมาก ความอมตะ ตอบกลับ 0 1 สมาชิกหมายเลข 5993621 11 มกราคม เวลา 00:17 น. Mahasati Neo ถูกใจ ความคิดเห็นที่ 13นิพพาน คือคำที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนเอาไว้ และหากศึกษาดี ๆ เราจะพบว่า การจินตนาการถึงนิพพานไม่ใช่เรื่องง่าย ฉะนั้น เราจึงต้องมาดูสิ่งอื่นประกอบด้วย เช่น ผู้เข้าถึงนิพพานนั้นเป็นอย่างไร อันดับแรก นิพพานไม่ใช่การดับสูญ หากนิพพานเป็นการดับสูญ แล้วทำไมจึงต้องมาสอนให้นิพพานกัน และทำไมเมื่อมีผู้กล่าวว่าพระพุทธเจ้าสอนการขาดสูญ พระพุทธองค์จึงทรงตรัสว่าพระองค์สอนการขาดสูญของกิเลสเท่านั้น การกล่าวว่าพระองค์สอนการขาดสูญจึงเป็นเรื่องผิด อีกทั้งนิพพานนั้นมีคุณสมบัติอันวิเศษหลายประการ เช่น มีความเป็นอมตะ มีความเที่ยงแท้ เป็นบรมสุข (ไม่ใช่ไม่มีสุขไม่มีทุกข์) ผู้ที่เข้าถึงนิพพานก็กลับเป็นผู้เบิกบาน มีสติ มีปัญญาเหนือกว่าคนทั่วไป ซึ่งไม่น่าจะเป็นคุณสมบัติของความขาดสูญที่ไม่ควรจะมีอะไรเลย แต่ปรากฎว่าผู้ที่ถึงฝั่งพระนิพพานแล้ว มักมีคุณสมบัติที่เลิศกว่าคนธรรมดาด้วยซ้ำ เช่น มีความประพฤติดี มีปัญญาดี มีฤทธิ์ มีความแตกฉานด้านภาษา เป็นต้น ฉะนั้น ดูจากผู้ที่เข้าถึงนิพพานมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นต้น นิพพานย่อมไม่ใช่อะไรที่เลวร้ายหรือน่ากลัวอย่างที่หลายคนจินตนาการ เพราะพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ผู้เข้าถึงนิพพาน ล้วนเป็นผู้มีอัธยาศัยอันดีงามและเบิกบาน ไม่ใช่ห่อเหี่ยวไร้อารมณ์ อีกทั้งไม่ใช่การสูญหายไปเฉย ๆ เป็นการสูญหายของเหตุและปัจจัยเท่านั้น สิ่งที่เกิดแต่เหตุ สิ่งนั้นย่อมดับ นั่นคือทุกอย่างที่เรารับรู้ในโลกนี้ แต่นิพพานไม่เคยเกี่ยวข้องกับโลกนี้ นิพพานไม่มีเกิด จึงไม่มีการดับ ทว่านิพพานก็คือนิพพาน ไม่ใช่ความดับสูญและไม่ใช่ตัวตนด้วย เพราะตัวตนมันเกิดได้และดับได้ ในหลายพระสูตรมีการแจกแจงไปว่า ผู้คนยึดตัวตนเพราะเป็นสัตว์บ้าง เป็นมนุษย์บ้าง เป็นรูปพรหมบ้าง เป็นอรูปพรหมบ้าง ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีวิญญาณเป็นเครื่องรู้ และการยึดตัวตนก็สุดเพียงแค่นี้ แต่พอเลยจากอรูปพรหมไปถึงนิพพานก็ไม่มีการยึดตัวตนแล้ว ที่ไม่ต้องยึดเพราะนิพพานไม่มีปัจจัยใด ๆ ให้หลงผิด ไม่มีปัจจัยใด ๆ ให้สมมติ มันเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น แต่ถึงจุดนี้เพราะการจินตนาการของคนธรรมดาไปไม่ถึง จึงมีวาทะต่าง ๆ กันไป แปลตำราต่าง ๆ กันไป หรือมีผลการปฏิบัติต่าง ๆ กันไป แต่ไม่จำเป็นต้องไปกล่าวถึงจุดนั้น รู้แค่ว่านิพพานนั้นดีจริงก็พอ เพราะผู้ที่บรรลุถึงนิพพานแล้ว ย่อมเห็นด้วยตนเองว่าไม่มีสิ่งใดเปรียบได้ ไม่ใช่แค่ความดับสูญอย่างที่เราจินตนาการ ไม่ใช่อะไรสักอย่างที่เราจินตนาการจากสิ่งที่เราเคยพบเห็น พระพุทธเจ้าจึงทรงปฏิเสธทิฎฐิของนักปราชญ์ทั้งหลาย เพราะการจินตนาการใด ๆ ในโลกมันไปเทียบเคียงนิพพานไม่ได้นั่นเอง ถ้าจะกล่าวโดยสรุป นิพพานนั้นคือจุดหมายปลายทางของทุกคน และเป็นทุกสิ่งที่ทุกคนต่างแสวงหา ไม่มีใครเลยที่ไปถึงนิพพานแล้วจะไม่พอใจ ไม่ว่าเราจะปรารถนาอะไรในโลกนี้ พอถึงนิพพานแล้วย่อมพอใจเฉพาะนิพพานนั้น เพราะไม่มีอะไรเปรียบได้ แต่ที่เรายังไม่เข้าใจหรือยังไม่อยากปรารถนานิพพาน เพราะเราเคยชินกับสภาพของใจที่มีกิเลสสิงอยู่ในใจ ซึ่งกิเลสคือโลภ โกรธ หลง จะคอยสอนให้เราพอใจและชอบใจกับสิ่งอื่นที่มีสุขเป็นประตูแต่มีปลายทางเป็นทุกข์อยู่ร่ำไป เปรียบเหมือนโจรที่มีความสุขกับทรัพย์ที่ขโมยมาได้ แต่ก็ต้องคอยหนีตำรวจ คอยหลบซ่อน คอยวางแผนปล้น เอาชีวิตไปเสี่ยงตายกับทรัพย์จำนวนไม่มาก ย่อมไม่เข้าใจความสุขของคนที่ทำมาหากินสุจริตจนฐานะมั่นคงและไม่ต้องคอยระวังตำรวจฉันใดฉันนั้น ความสุขที่มนุษย์แสวงหาก็ฉันนั้น เมื่อเทียบกับนิพพานแล้วเทียบไม่ได้เลย เหมือนฝุ่นที่ปลายเข็ม ไม่สามารถเทียบกับผืนปฐพีอันกว้างใหญ่ได้เช่นนั้น ดังนั้น นิพพานจึงกล่าวได้ว่าเป็นเลิศที่สุด เป็นยอดที่สุด ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนได้ และแน่นอน ที่มันเป็นเช่นนั้นเพราะมันเป็นสิ่งที่มีสาระ ไม่ใช่สิ่งที่ไร้สาระเหมือนความคิดที่ว่านิพพานแล้วจะดับสูญเหมือนการตายแล้วสูญ เพราะความดับสูญมันหาสาระไม่ได้ ซึ่งตรงข้ามกับนิพพานเลย ความจริงคือทุกสิ่งที่ดับสูญไปล้วนไม่ใช่นิพพาน เพราะนิพพานไม่มีการเกิดและไม่มีการดับ แต่ทว่ามีการเข้าถึงได้อยู่ ตอบกลับ 0 0 พักผ่อน 11 มกราคม เวลา 00:34 น. ความคิดเห็นที่ 14ไม่ได้ลึกลับซับซ้อนอะไรหรอก แต่เข้าถึงได้ยาก ตอบกลับ 0 0 สะพานหมุนติ้ว 11 มกราคม เวลา 01:29 น. ความคิดเห็นที่ 15มีแต่ ใครๆ จะเอา นิพพาน แต่. นิพพาน ไม่เอาใคร ตอบกลับ 0 0 ผ่าน 11 มกราคม เวลา 05:52 น. ความคิดเห็นที่ 16“ธรรมชาตินี้สงบ ธรรมชาตินี้ประณีต : คือภาวะที่สงบแห่งสังขารทั้งปวง เป็นที่สลัดคืนซึ่งอุปธิทั้งปวง เป็นที่สิ้นไปแห่งตัณหา เป็นความคลายกำหนัด (วิราคธรรม) เป็นความดับ . ธรรมเป็นที่ดับแห่งทุกข์ทั้งปวงโดยไม่เหลือ 🔥เพลิงกิเลสเพลิงทุกข์สิ้นเชิง 🌍🌏🌎 ธรรมเครื่องสลัดตนออกจากโลก. นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ ฯ" (เพราะนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง) ตอบกลับ 0 1 สมาชิกหมายเลข 3459975 11 มกราคม เวลา 07:12 น. Mahasati Neo ถูกใจ ความคิดเห็นที่ 17นิพพานคือ​ อมตะ​ เพราะไม่เกิด​ ไม่แก่​ ไม่เจ็บ​ ไม่ตาย ตอบกลับ 0 2 สมาชิกหมายเลข 7326608 11 มกราคม เวลา 11:34 น. Mahasati Neo ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3402001 ถูกใจ ความคิดเห็นที่ 18ต้องการนิพพานต้องรู้ถูก https://pantip.com/topic/30134196/comment5 สีเล ปติฐาย นโร สปญฺโญ จิตฺตํ ปญฺญญฺจ ภาวยํ อาตาปี นิปโก ภิกฺขุ โส อิมํ วิชฏเยชฏํ ความว่า นรชาติชายหญิง ผู้มีปัญญาแต่กำเนิด มีความเพียรเป็นเครื่องเผากิเลสมีปัญญาบริหารจิต เห็นภัยในการเวียนว่ายตายเกิด ตั้งมั่นในศีล อบรมสมาธิและวิปัสสนาปัญญาเท่านั้น นรชนชาติชายหญิงนี้เท่านั้น จึงจะสามารถสางรกชัฏที่เป็นเสมือนข่ายคือ ตัณหาออกได้ ความหมายของพระนิพพานจาก พระไตรปิฏก อรรถกถา https://pantip.com/topic/31817916/comment1 https://pantip.com/topic/33679699/comment15 นิพพานมี ๒ ประเภท นิพพาน เมื่อกล่าวโดยปริยายแห่งเหตุ(การณูปจารปัจจัย)แล้ว มี ๒ ประเภท คือ ๑. สอุปาทิเสสนิพพาน ได้แก่ นิพพานที่เป็นไปกับขันธ์ ๕ = ทิฏฺฐธมฺมนิพฺพานํ ๒. อนุปาทิเสสนิพพาน ได้แก่ นิพพานที่ไม่มีขันธ์ ๕ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ สภาพของนิพพาน https://abhidhamonline.org/aphi/p6/084.htm อาจารย์ผู้บอกกรรมฐานอย่างน้อยที่สุด ก็ต้องเป็นผู้ไม่เลอะเลือนทั้งในพระไตรปิฎกและอรรถกถา https://pantip.com/topic/38517496/comment9 ตอบกลับ 0 1 สมาชิกหมายเลข 3402001 11 มกราคม เวลา 12:54 น. Mahasati Neo ถูกใจ ความคิดเห็นที่ 19กรณีธรรมกลาย https://www.watnyanaves.net/th/book_detail/10 https://dharmasamathi.wordpress.com/2013/05/17/%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%95%E0%B8%B2-%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%AA/ นิพพานเป็นอนัตตา…..42 นิพพาน ไม่ใช่ปัญหาอภิปรัชญา…..42 แหล่งความรู้ที่ชัดเจนมีอยู่ ก็ไม่เอา กลับไปหาทางเดาร่วมกับพวกที่ยังสับสน…..47 พระพุทธเจ้าตรัสไว้แน่นอนเด็ดขาด ว่าลัทธิถืออัตตาไม่ใช่คำสอน ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า…..50 พระไตรปิฎกและอรรถกถาระบุว่า นิพพานเป็นอนัตตา…..53 การหาทางตีความ ให้นิพพานเป็นอัตตา…………60 การใช้ตรรกะที่ผิด เพื่อให้คิดว่านิพพานเป็นอัตตา…..64 การจับคำความที่ผิดมาอ้างเป็นหลักฐาน เพื่อให้นิพพานเป็นอัตตา…..66 เมื่อจำนนด้วยหลักฐาน ก็หาทางทำให้สับสน……68 เมื่อหลักฐานก็ไม่มี ตีความก็ไม่ได้ ก็หันไปอ้างผลจากการปฏิบัติ…..71 เพราะไม่เห็นแก่พระธรรมวินัย จึงต้องหาทางดิ้นรนเพื่อหนีให้พ้นสัจจะ…..73 ความซื่อตรงต่อหลักพระศาสนา และมีเมตตาต่อประชาชน คือหัวใจของการรักษาระบบไตรสิกขาไว้ให้แก่ประชาสังคม…..75 คณะธรรมกลาย คณะแอบจิตและ จิตเที่ยง เป็นอมตะ มหานิรันดร์กาล ตั้งกระทู้ เลี่ยงพระบาลี บิดเบือนพระธรรมวินัย ครับ ให้ จิตเที่ยง และ นิพพาน เป็นอัตตา ตัวตน https://pantip.com/topic/39040011/comment6 ความเห็นผิดสุดโต่ง ๒ สาย (ธรรมกลาย&มโนอิทธิ, พุทธทาส+นักบวชคึก+สันติอโศก) https://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/Y2639614/Y2639614.html ตอบกลับ 0 0 สมาชิกหมายเลข 3402001 11 มกราคม เวลา 12:55 น. ความคิดเห็นที่ 20คือความดับ สุข สงบเย็น ยิ้ม https://m.pantip.com/topic/37487612? ตอบกลับ 0 0 Mahasati Neo 11 มกราคม เวลา 13:13 น. ความคิดเห็นที่ 21คือ บรมสุข ไม่มีสิ่งปรุงแต่งให้เกิดขึ้น เมื่อไม่เกิดก็จะไม่เสื่อมสลาย และไม่มีการดับสูญ ตอบกลับ 0 0 สมาชิกหมายเลข 869744 11 มกราคม เวลา 14:52 น. ความคิดเห็นที่ 22ถามเรื่องที่เป็นอจินไตย ยิ่งถามยิ่งบ้า เพราะที่อยู่กันในโลกนี้ ไม่เคยมีใครเห็นนิพพาน ถามได้ก็ไม่เกิดประโยชน์ อย่าว่าคำตอบมโนเลย คำถามก็มโนเพ้อเจ้อ เจ้าหอบเงิน แก้ไขข้อความเมื่อ 12 มกราคม เวลา 19:34 น. ตอบกลับ 0 0 สมาชิกหมายเลข 5107524 12 มกราคม เวลา 12:24 น. ความคิดเห็นที่ 23ขอบคุณครับ

รูปภาพ
นิพพานเป็นอย่างไร กระทู้สนทนา ศาสนาพุทธ ในพระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า 0   0   ความคิดเห็นที่ 1. นิพพานเป็นอย่างไร กระทู้สนทนา ติดตาม ศาสนาพุทธ ในพระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า 0 0 สมาชิกหมายเลข 7881572 1 ชั่วโมงที่แล้ว ------ https://pantip.com/topic/42367614/desktop . . จุดหมายปลายทางของศาสนาพุทธ คือไม่อยากเวียนว่ายตายเกิดอีกแล้ว หมายถึงไปนิพพานใช่ไหม ครัย  --------- ความจริง  เป้าหมาย  คือ การพ้นทุกข์ทั้งมวล คือ พ้นทั้งทุกข์ทางใจ ในชาติปัจจุบัน และพ้นทุกข์ทั้งทางกายและใจ ในอนาคต และนิพพานอยู่ที่ไหน อยู่บนสวรรค์ ---------- นิพพาน คือ  สภาวะสงบ สันติสุข         ที่รับรู้ด้วยจิตใจ  (เหมือนที่ใจ การรับรู้ความสุข ความทุกข์)      คือ เมื่อ จิต มีสติ ดู  ร่างกาย หรือจิต(เวทนา จิต ธรรม(สิ่งที่เกิดขึ้นในใจ)      เห็นการเกิดดับ ไม่คงที่ตลอดเวลา    ...

สหรัฐอเมริกา

สหรัฐอเมริกา

สหรัฐอเมริกา

 สหรัฐอเมริกา

พระพทธศาสนา

พระพทธเจ้า

นิพพาน

นิพพาน

ธรรมดำ

ธรรมกลาง

ธรรมดี

ธรรมดำ

ธรรมกลาง

ธรรมาว

ธรรมดี

สง

ธรรม

นิพพาน

ดี