บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก สิงหาคม, 2023

จบ

 จบ

นิพพาน

 นิพพาน

ดี

 ดี

นิพพาน

 นิพพาน

ดี

 ดี

สูง

 สูง

ธรรม

 ธรรม

นิพพาน

 นิพพาน

ดี

 ดี

พระพุทธศาสนา

 พระพุทธศาสนา

อินเดีย

 อินเดีย

พระพุทธศาสนา

 พระพุทธศาสนา

ไทย 13 อินเดีย 6

  ไทย 13 อินเดีย 6

ทุกเวลา16063

ทุกเวลา 16063

เดือนที่ผ่านมา5424

เดือนที่ผ่านมา 5424

เดือนนี้70

เดือนนี้ 70

เมื่อวานนี้0

  เมื่อวานนี้ 0

วันนี้0

วันนี้ 0

https://www.youtube.com/watch?v=bjzdntC_xb8

 https://www.youtube.com/watch?v=bjzdntC_xb8

พระพุทธศาสนา

 พระพุทธศาสนา

นิพพาน

 นิพพาน

ไทย 13 อินเดีย 6

ไทย 13 อินเดีย 6  

ทุกเวลา16063

  ทุกเวลา 16063

เดือนที่ผ่านมา5424

เดือนที่ผ่านมา 5424

เดือนนี้70

  เดือนนี้ 70

เมื่อวานนี้0

เมื่อวานนี้ 0

วันนี้0

  วันนี้ 0

บรรยากาศเป็นใจน้อลูกฝนตก อากาศเย็นทีไรมาทุกอาการ ภูมิแพ้ หอบหืดแท็คทีมครบเลย

  บรรยากาศเป็นใจน้อลูกฝนตก อากาศเย็นทีไรมาทุกอาการ ภูมิแพ้ หอบหืดแท็คทีมครบเลย

#วันนี้วันพระ ~การล้างบาปของพุทธ~ [สมัยหนึ่ง พราหมณ์ที่ชื่อชาณุสโสณี ได้อาบน้ำสระผมในวันอุโบสถ นุ่งผ้าโขษมพัสตร์ (ผ้าป่าน) ถือหญ้าคาสดมายืนอยู่ใกล้พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเห็นดังนั้นจึงถามว่า] พ: พราหมณ์ วันนี้เป็นวันอะไรของพราหมณ์หรือ ท่านจึงได้อาบน้ำสระผม นุ่งผ้าโขษมพัสตร์ ถือหญ้าคาสดมายืนอยู่ตรงนี้? ช: พระโคดม วันนี้เป็นวันล้างบาปของพราหมณ์ พ: พิธีล้างบาปของพราหมณ์ทำกันอย่างไร? ช: พราหมณ์ทั้งหลายจะอาบน้ำสระผม นุ่งผ้าโขษมพัสตร์คู่ใหม่ ทาพื้นด้วยขี้วัวสด ปูพื้นด้วยหญ้าคาสด นอนอยู่ระหว่างกองทรายและเรือนไฟ ลุกขึ้นพนมมือ บูชาไฟ 3 ครั้ง แล้วกล่าวว่า ‘ข้าพเจ้าทั้งหลายขอล้างบาปกับท่านผู้เจริญ’ จากนั้นเติมไฟให้ลุกโพลงด้วยเนยใส น้ำมัน และเนยข้น เมื่อล่วงคืนนั้นไป ก็เลี้ยงกันด้วยของขบเคี้ยวต่างๆ นี่คือพิธีล้างบาปของเหล่าพราหมณ์ พ: พิธีล้างบาปของพราหมณ์นั้นเป็นอย่างนี้ ส่วนพิธีล้างบาปในวินัยของพระอริยะนั้นเป็นอีกอย่าง ช: พระโคดม พิธีล้างบาปในวินัยของพระอริยะนั้นเป็นอย่างไร ขอท่านโปรดอธิบายแก่ผมด้วยเถิด พ: ถ้าเช่นนั้น ท่านจงใส่ใจฟังให้ดี เราจะกล่าว พราหมณ์ อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ พิจารณาเห็นว่าผลของการมีความเห็นที่ผิด (มิจฉาทิฏฐิ คือไม่เข้าใจว่าทุกข์คืออะไร เกิดจากอะไร การไม่มีทุกข์เป็นอย่างไร และจะดับทุกข์ได้อย่างไร รวมถึงไม่เห็นว่าสิ่งต่างๆไม่จีรังยั่งยืน เปลี่ยนแปลงตลอด เกิดดับไม่มีตัวตน) เป็นสิ่งเลวร้ายทั้งในภพปัจจุบันและภพต่อไป เมื่อเห็นเช่นนี้ ย่อมจะละมิจฉาทิฏฐิ ล้างบาปจากมิจฉาทิฏฐิ พิจารณาเห็นว่าผลของการมีความคิดที่ผิด (มิจฉาสังกัปปะ)...วาจาที่ผิด (มิจฉาวาจา)...การประพฤติตัวในทางที่ผิด (มิจฉากัมมันตะ)...การเลี้ยงชีพในทางที่ผิด (มิจฉาอาชีวะ)...ความเพียรที่ผิด (มิจฉาวายามะ)...การมีสติที่ผิด (มิจฉาสติ)...การมีสมาธิที่ผิด (มิจฉาสมาธิ)...การรู้ที่ผิด (มิจฉาญาณะ)...การหลุดพ้นในแนวทางที่ผิด (มิจฉาวิมุตติ) เป็นสิ่งเลวร้ายทั้งในภพปัจจุบันและภพต่อไป เมื่อเห็นเช่นนี้ ย่อมจะละมิจฉาทิฏฐิ...มิจฉาสังกัปปะ...มิจฉาวาจา...มิจฉากัมมันตะ...มิจฉาอาชีวะ...มิจฉาวายามะ...มิจฉาสติ...มิจฉาสมาธิ...มิจฉาญาณะ...มิจฉาวิมุตติ ล้างบาปจากมิจฉาทิฏฐิ...มิจฉาสังกัปปะ...มิจฉาวาจา...มิจฉากัมมันตะ...มิจฉาอาชีวะ...มิจฉาวายามะ...มิจฉาสติ...มิจฉาสมาธิ...มิจฉาญาณะ...มิจฉาวิมุตติ พราหมณ์ พิธีล้างบาปในวินัยของพระอริยะเป็นอย่างนี้แล ช: ท่านพระโคดม คำสอนของท่านแจ่มแจ้งมาก เหมือนหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง หรือส่องแสงในที่มืด ผมขอถือท่าน คำสอนของท่าน และพระสงฆ์ที่ปฏิบัติตามคำสอนของท่านเป็นที่พึ่ง (สรณะ) ขอท่านโปรดจำผมว่า เป็นอุบาสกผู้ถึงสรณะตลอดชีวิตจากวันนี้เป็นต้นไป ________________________ ที่มา: เรียบเรียงจากพระไตรปิฎก ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ 38 (พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต ภาค 5 ปัจโจโรหณิวรรค ปฐมปัจโจโรหณีสูตร ข้อ 119), 2559, น.379-381

#วันนี้วันพระ ~การล้างบาปของพุทธ~ [สมัยหนึ่ง พราหมณ์ที่ชื่อชาณุสโสณี ได้อาบน้ำสระผมในวันอุโบสถ นุ่งผ้าโขษมพัสตร์ (ผ้าป่าน) ถือหญ้าคาสดมายืนอยู่ใกล้พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ ้าเห็นดังนั้นจึงถามว่า] พ: พราหมณ์ วันนี้เป็นวันอะไรของพราหมณ์หรือ ท่านจึงได้อาบน้ำสระผม นุ่งผ้าโขษมพัสตร์ ถือหญ้าคาสดมายืนอยู่ตรงนี้? ช: พระโคดม วันนี้เป็นวันล้างบาปของพราหมณ์ พ: พิธีล้างบาปของพราหมณ์ทำกันอย่างไร? ช: พราหมณ์ทั้งหลายจะอาบน้ำสระผม นุ่งผ้าโขษมพัสตร์คู่ใหม่ ทาพื้นด้วยขี้วัวสด ปูพื้นด้วยหญ้าคาสด นอนอยู่ระหว่างกองทรายและเรือนไฟ ลุกขึ้นพนมมือ บูชาไฟ 3 ครั้ง แล้วกล่าวว่า ‘ข้าพเจ้าทั้งหลายขอล้างบาปกับท่านผู้เจริญ’ จากนั้นเติมไฟให้ลุกโพลงด้วยเนยใส น้ำมัน และเนยข้น เมื่อล่วงคืนนั้นไป ก็เลี้ยงกันด้วยของขบเคี้ยวต่างๆ นี่คือพิธีล้างบาปของเหล่าพราหมณ์ พ: พิธีล้างบาปของพราหมณ์นั้นเป็นอย่างนี้ ส่วนพิธีล้างบาปในวินัยของพระอริยะนั้นเป็นอีกอย่าง ช: พระโคดม พิธีล้างบาปในวินัยของพระอริยะนั้นเป็นอย่างไร ขอท่านโปรดอธิบายแก่ผมด้วยเถิด พ: ถ้าเช่นนั้น ท่านจงใส่ใจฟังให้ดี เราจะกล่าว พราหมณ์ อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ พ

#วันนี้วันพระ ~การล้างบาปของพุทธ~ [สมัยหนึ่ง พราหมณ์ที่ชื่อชาณุสโสณี ได้อาบน้ำสระผมในวันอุโบสถ นุ่งผ้าโขษมพัสตร์ (ผ้าป่าน) ถือหญ้าคาสดมายืนอยู่ใกล้พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเห็นดังนั้นจึงถามว่า] พ: พราหมณ์ วันนี้เป็นวันอะไรของพราหมณ์หรือ ท่านจึงได้อาบน้ำสระผม นุ่งผ้าโขษมพัสตร์ ถือหญ้าคาสดมายืนอยู่ตรงนี้? ช: พระโคดม วันนี้เป็นวันล้างบาปของพราหมณ์ พ: พิธีล้างบาปของพราหมณ์ทำกันอย่างไร? ช: พราหมณ์ทั้งหลายจะอาบน้ำสระผม นุ่งผ้าโขษมพัสตร์คู่ใหม่ ทาพื้นด้วยขี้วัวสด ปูพื้นด้วยหญ้าคาสด นอนอยู่ระหว่างกองทรายและเรือนไฟ ลุกขึ้นพนมมือ บูชาไฟ 3 ครั้ง แล้วกล่าวว่า ‘ข้าพเจ้าทั้งหลายขอล้างบาปกับท่านผู้เจริญ’ จากนั้นเติมไฟให้ลุกโพลงด้วยเนยใส น้ำมัน และเนยข้น เมื่อล่วงคืนนั้นไป ก็เลี้ยงกันด้วยของขบเคี้ยวต่างๆ นี่คือพิธีล้างบาปของเหล่าพราหมณ์ พ: พิธีล้างบาปของพราหมณ์นั้นเป็นอย่างนี้ ส่วนพิธีล้างบาปในวินัยของพระอริยะนั้นเป็นอีกอย่าง ช: พระโคดม พิธีล้างบาปในวินัยของพระอริยะนั้นเป็นอย่างไร ขอท่านโปรดอธิบายแก่ผมด้วยเถิด พ: ถ้าเช่นนั้น ท่านจงใส่ใจฟังให้ดี เราจะกล่าว พราหมณ์ อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ พิจารณาเห็นว่าผลของการมีความเห็นที่ผิด (มิจฉาทิฏฐิ คือไม่เข้าใจว่าทุกข์คืออะไร เกิดจากอะไร การไม่มีทุกข์เป็นอย่างไร และจะดับทุกข์ได้อย่างไร รวมถึงไม่เห็นว่าสิ่งต่างๆไม่จีรังยั่งยืน เปลี่ยนแปลงตลอด เกิดดับไม่มีตัวตน) เป็นสิ่งเลวร้ายทั้งในภพปัจจุบันและภพต่อไป เมื่อเห็นเช่นนี้ ย่อมจะละมิจฉาทิฏฐิ ล้างบาปจากมิจฉาทิฏฐิ พิจารณาเห็นว่าผลของการมีความคิดที่ผิด (มิจฉาสังกัปปะ)...วาจาที่ผิด (มิจฉาวาจา)...การประพฤติตัวในทางที่ผิด (มิจฉากัมมันตะ)...การเลี้ยงชีพในทางที่ผิด (มิจฉาอาชีวะ)...ความเพียรที่ผิด (มิจฉาวายามะ)...การมีสติที่ผิด (มิจฉาสติ)...การมีสมาธิที่ผิด (มิจฉาสมาธิ)...การรู้ที่ผิด (มิจฉาญาณะ)...การหลุดพ้นในแนวทางที่ผิด (มิจฉาวิมุตติ) เป็นสิ่งเลวร้ายทั้งในภพปัจจุบันและภพต่อไป เมื่อเห็นเช่นนี้ ย่อมจะละมิจฉาทิฏฐิ...มิจฉาสังกัปปะ...มิจฉาวาจา...มิจฉากัมมันตะ...มิจฉาอาชีวะ...มิจฉาวายามะ...มิจฉาสติ...มิจฉาสมาธิ...มิจฉาญาณะ...มิจฉาวิมุตติ ล้างบาปจากมิจฉาทิฏฐิ...มิจฉาสังกัปปะ...มิจฉาวาจา...มิจฉากัมมันตะ...มิจฉาอาชีวะ...มิจฉาวายามะ...มิจฉาสติ...มิจฉาสมาธิ...มิจฉาญาณะ...มิจฉาวิมุตติ พราหมณ์ พิธีล้างบาปในวินัยของพระอริยะเป็นอย่างนี้แล ช: ท่านพระโคดม คำสอนของท่านแจ่มแจ้งมาก เหมือนหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง หรือส่องแสงในที่มืด ผมขอถือท่าน คำสอนของท่าน และพระสงฆ์ที่ปฏิบัติตามคำสอนของท่านเป็นที่พึ่ง (สรณะ) ขอท่านโปรดจำผมว่า เป็นอุบาสกผู้ถึงสรณะตลอดชีวิตจากวันนี้เป็นต้นไป ________________________ ที่มา: เรียบเรียงจากพระไตรปิฎก ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ 38 (พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต ภาค 5 ปัจโจโรหณิวรรค ปฐมปัจโจโรหณีสูตร ข้อ 119), 2559, น.379-381

 #วันนี้วันพระ ~การล้างบาปของพุทธ~ [สมัยหนึ่ง พราหมณ์ที่ชื่อชาณุสโสณี ได้อาบน้ำสระผมในวันอุโบสถ นุ่งผ้าโขษมพัสตร์ (ผ้าป่าน) ถือหญ้าคาสดมายืนอยู่ใกล้พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเห็นดังนั้นจึงถามว่า] พ: พราหมณ์ วันนี้เป็นวันอะไรของพราหมณ์หรือ ท่านจึงได้อาบน้ำสระผม นุ่งผ้าโขษมพัสตร์ ถือหญ้าคาสดมายืนอยู่ตรงนี้? ช: พระโคดม วันนี้เป็นวันล้างบาปของพราหมณ์ พ: พิธีล้างบาปของพราหมณ์ทำกันอย่างไร? ช: พราหมณ์ทั้งหลายจะอาบน้ำสระผม นุ่งผ้าโขษมพัสตร์คู่ใหม่ ทาพื้นด้วยขี้วัวสด ปูพื้นด้วยหญ้าคาสด นอนอยู่ระหว่างกองทรายและเรือนไฟ ลุกขึ้นพนมมือ บูชาไฟ 3 ครั้ง แล้วกล่าวว่า ‘ข้าพเจ้าทั้งหลายขอล้างบาปกับท่านผู้เจริญ’ จากนั้นเติมไฟให้ลุกโพลงด้วยเนยใส น้ำมัน และเนยข้น เมื่อล่วงคืนนั้นไป ก็เลี้ยงกันด้วยของขบเคี้ยวต่างๆ นี่คือพิธีล้างบาปของเหล่าพราหมณ์ พ: พิธีล้างบาปของพราหมณ์นั้นเป็นอย่างนี้ ส่วนพิธีล้างบาปในวินัยของพระอริยะนั้นเป็นอีกอย่าง ช: พระโคดม พิธีล้างบาปในวินัยของพระอริยะนั้นเป็นอย่างไร ขอท่านโปรดอธิบายแก่ผมด้วยเถิด พ: ถ้าเช่นนั้น ท่านจงใส่ใจฟังให้ดี เราจะกล่าว พราหมณ์ อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ พิจารณาเห็นว่าผล

บรรยากาศเป็นใจน้อลูกฝนตก อากาศเย็นทีไรมาทุกอาการ ภูมิแพ้ หอบหืดแท็คทีมครบเลย

บรรยากาศเป็นใจน้อลูกฝนตก อากาศเย็นทีไรมาทุกอาการ ภูมิแพ้ หอบหืดแท็คทีมครบเลย

ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่มีความสุข

 ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่มีความสุข

จบ

 จบ

การล้างบาปของพุทธ~ [สมัยหนึ่ง พราหมณ์ที่ชื่อชาณุสโสณี ได้อาบน้ำสระผมในวันอุโบสถ นุ่งผ้าโขษมพัสตร์ (ผ้าป่าน) ถือหญ้าคาสดมายืนอยู่ใกล้พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเห็นดังนั้นจึงถามว่า] พ: พราหมณ์ วันนี้เป็นวันอะไรของพราหมณ์หรือ ท่านจึงได้อาบน้ำสระผม นุ่งผ้าโขษมพัสตร์ ถือหญ้าคาสดมายืนอยู่ตรงนี้? ช: พระโคดม วันนี้เป็นวันล้างบาปของพราหมณ์ พ: พิธีล้างบาปของพราหมณ์ทำกันอย่างไร? ช: พราหมณ์ทั้งหลายจะอาบน้ำสระผม นุ่งผ้าโขษมพัสตร์คู่ใหม่ ทาพื้นด้วยขี้วัวสด ปูพื้นด้วยหญ้าคาสด นอนอยู่ระหว่างกองทรายและเรือนไฟ ลุกขึ้นพนมมือ บูชาไฟ 3 ครั้ง แล้วกล่าวว่า ‘ข้าพเจ้าทั้งหลายขอล้างบาปกับท่านผู้เจริญ’ จากนั้นเติมไฟให้ลุกโพลงด้วยเนยใส น้ำมัน และเนยข้น เมื่อล่วงคืนนั้นไป ก็เลี้ยงกันด้วยของขบเคี้ยวต่างๆ นี่คือพิธีล้างบาปของเหล่าพราหมณ์ พ: พิธีล้างบาปของพราหมณ์นั้นเป็นอย่างนี้ ส่วนพิธีล้างบาปในวินัยของพระอริยะนั้นเป็นอีกอย่าง ช: พระโคดม พิธีล้างบาปในวินัยของพระอริยะนั้นเป็นอย่างไร ขอท่านโปรดอธิบายแก่ผมด้วยเถิด พ: ถ้าเช่นนั้น ท่านจงใส่ใจฟังให้ดี เราจะกล่าว พราหมณ์ อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ พิจารณาเห็นว่าผลของการมีความเห็นที่ผิด (มิจฉาทิฏฐิ คือไม่เข้าใจว่าทุกข์คืออะไร เกิดจากอะไร การไม่มีทุกข์เป็นอย่างไร และจะดับทุกข์ได้อย่างไร รวมถึงไม่เห็นว่าสิ่งต่างๆไม่จีรังยั่งยืน เปลี่ยนแปลงตลอด เกิดดับไม่มีตัวตน) เป็นสิ่งเลวร้ายทั้งในภพปัจจุบันและภพต่อไป เมื่อเห็นเช่นนี้ ย่อมจะละมิจฉาทิฏฐิ ล้างบาปจากมิจฉาทิฏฐิ พิจารณาเห็นว่าผลของการมีความคิดที่ผิด (มิจฉาสังกัปปะ)...วาจาที่ผิด (มิจฉาวาจา)...การประพฤติตัวในทางที่ผิด (มิจฉากัมมันตะ)...การเลี้ยงชีพในทางที่ผิด (มิจฉาอาชีวะ)...ความเพียรที่ผิด (มิจฉาวายามะ)...การมีสติที่ผิด (มิจฉาสติ)...การมีสมาธิที่ผิด (มิจฉาสมาธิ)...การรู้ที่ผิด (มิจฉาญาณะ)...การหลุดพ้นในแนวทางที่ผิด (มิจฉาวิมุตติ) เป็นสิ่งเลวร้ายทั้งในภพปัจจุบันและภพต่อไป เมื่อเห็นเช่นนี้ ย่อมจะละมิจฉาทิฏฐิ...มิจฉาสังกัปปะ...มิจฉาวาจา...มิจฉากัมมันตะ...มิจฉาอาชีวะ...มิจฉาวายามะ...มิจฉาสติ...มิจฉาสมาธิ...มิจฉาญาณะ...มิจฉาวิมุตติ ล้างบาปจากมิจฉาทิฏฐิ...มิจฉาสังกัปปะ...มิจฉาวาจา...มิจฉากัมมันตะ...มิจฉาอาชีวะ...มิจฉาวายามะ...มิจฉาสติ...มิจฉาสมาธิ...มิจฉาญาณะ...มิจฉาวิมุตติ พราหมณ์ พิธีล้างบาปในวินัยของพระอริยะเป็นอย่างนี้แล ช: ท่านพระโคดม คำสอนของท่านแจ่มแจ้งมาก เหมือนหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง หรือส่องแสงในที่มืด ผมขอถือท่าน คำสอนของท่าน และพระสงฆ์ที่ปฏิบัติตามคำสอนของท่านเป็นที่พึ่ง (สรณะ) ขอท่านโปรดจำผมว่า เป็นอุบาสกผู้ถึงสรณะตลอดชีวิตจากวันนี้เป็นต้นไป ________________________ ที่มา: เรียบเรียงจากพระไตรปิฎก ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ 38 (พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต ภาค 5 ปัจโจโรหณิวรรค ปฐมปัจโจโรหณีสูตร ข้อ 119), 2559, น.379-381

การล้างบาปของพุทธ~ [สมัยหนึ่ง พราหมณ์ที่ชื่อชาณุสโสณี ได้อาบน้ำสระผมในวันอุโบสถ นุ่งผ้าโขษมพัสตร์ (ผ้าป่าน) ถือหญ้าคาสดมายืนอยู่ใกล้พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ ้าเห็นดังนั้นจึงถามว่า] พ: พราหมณ์ วันนี้เป็นวันอะไรของพราหมณ์หรือ ท่านจึงได้อาบน้ำสระผม นุ่งผ้าโขษมพัสตร์ ถือหญ้าคาสดมายืนอยู่ตรงนี้? ช: พระโคดม วันนี้เป็นวันล้างบาปของพราหมณ์ พ: พิธีล้างบาปของพราหมณ์ทำกันอย่างไร? ช: พราหมณ์ทั้งหลายจะอาบน้ำสระผม นุ่งผ้าโขษมพัสตร์คู่ใหม่ ทาพื้นด้วยขี้วัวสด ปูพื้นด้วยหญ้าคาสด นอนอยู่ระหว่างกองทรายและเรือนไฟ ลุกขึ้นพนมมือ บูชาไฟ 3 ครั้ง แล้วกล่าวว่า ‘ข้าพเจ้าทั้งหลายขอล้างบาปกับท่านผู้เจริญ’ จากนั้นเติมไฟให้ลุกโพลงด้วยเนยใส น้ำมัน และเนยข้น เมื่อล่วงคืนนั้นไป ก็เลี้ยงกันด้วยของขบเคี้ยวต่างๆ นี่คือพิธีล้างบาปของเหล่าพราหมณ์ พ: พิธีล้างบาปของพราหมณ์นั้นเป็นอย่างนี้ ส่วนพิธีล้างบาปในวินัยของพระอริยะนั้นเป็นอีกอย่าง ช: พระโคดม พิธีล้างบาปในวินัยของพระอริยะนั้นเป็นอย่างไร ขอท่านโปรดอธิบายแก่ผมด้วยเถิด พ: ถ้าเช่นนั้น ท่านจงใส่ใจฟังให้ดี เราจะกล่าว พราหมณ์ อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ พิจารณาเห็นว่าผล

🌼#ร่วมถวายผ้าป่ามหาธรรมทาน 🌼#ถวายพระไตรปิฏก_9_วัดป่ากรรมฐาน 🌼#รับวารดิถีขึ้นปีใหม่_2565 🌼#สั่งสมเพิ่มพูนบุญบารมี . ดูก่อนอานนท์ ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ที่เราได้แสดงไว้ และบัญญัติไว้ด้วยดี นั่นแหละจักเป็นศาสดาของเธอ สืบแทนเราตถาคต เมื่อเราล่วงไปแล้ว . ✅#โครงการผ้าป่าพระไตรปิฏก_9_วัดป่ากรรมฐาน #สายหลวงปู่มั่น_ภูริทัตโต_ปี_2565 ✅#ถวายพระไตรปิฏกฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย #พร้อมตู้ไม้สัก_จำนวน_9_วัด_9_จังหวัด (จังหวัดละ 1 วัด) สกลนคร บึงกาฬ มุกดาหาร อุดรธานี ยโสธร หนองคาย นครพนม หนองบัวลำภู และ เลย . 💳ร่วมทำบุญกองบุญละ 100 บาท หรือตามกำลังศรัทธา 💳บัญชีธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 6794178303 💳ชื่อบัญชี พระธีระเดช สุทธิบริบาล (บัญชีเพื่อโครงการถวายพระไตรปิฎก 2565) . 🙏หรือ ร่วมสั่งสมบุญด้วยการแชร์ บอกบุญเป็นสะพานบุญ . 🟡ปิดรับยอดบุญ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 (วันมาฆบูชา) 🟢ทอดถวายผ้าป่าวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2565 . 📒#อานิสงส์ถวายพระไตรปิฎก ดั่งประทีปส่องทางให้เห็นนรกและสวรรค์ ผู้นั้นจะได้อานิสงส์เพิ่มพูน กุศลจริยาเป็นอเนกอนันต์ ได้รับชัยชนะต่อจิตใจตนเอง และผู้อื่น มีความรู้ การศึกษาสูง บังเกิดผลบุญอันยิ่งใหญ่ไพศาลทั้งในชาตินี้ และชาติหน้า . “อกฺขรา เอกํ เอกญฺจ พุทฺธรูปํ สมํ สิยา สร้างอักขรธรรมหนึ่งอักษร เท่ากับสร้างพระพุทธรูปหนึ่งองค์” . 🌅ดูกรภิกษุทั้งหลาย อามิสทาน 1 ธรรมทาน 1 บรรดาทาน 2 อย่างนี้ ธรรมทานเป็นเลิศ 🌅ดูกรภิกษุทั้งหลาย การแจกจ่ายอามิส 1 การแจกจ่ายธรรม 1 บรรดาการแจกจ่าย 2 อย่างนี้ การแจกจ่ายธรรมเป็นเลิศ . 🌅ดูกรภิกษุทั้งหลาย การอนุเคราะห์ การอนุเคราะห์ด้วย อามิส 1 การอนุเคราะห์ด้วยธรรม 1 บรรดาการอนุเคราะห์ 2 อย่างนี้ การอนุเคราะห์ด้วยธรรมเป็นเลิศ ฯ . 📙: พระไตรปิฎกเล่มที่ 25 สุตตันตปิฎกที่ 17 ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน . เพียงมีเจตนาอันเป็นกุศล ผลบุญย่อมบังเกิดแล้วแก่ผู้นั้น สาธุ ขออนุโมทนาบุญ ขออนุญาตโพสต์เพื่อบอกบุญ อนุโมทนาสาธุค่ะ

รูปภาพ
  #ร่วมถวายผ้าป่ามหาธรรมทาน #ถวายพระไตรปิฏก_9_วัดป่ากรรมฐาน #รับวารดิถีขึ้นปีใหม่_2565 #สั่งสมเพิ่มพูนบุญบารมี . ดูก่อนอานนท์ ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ที่เราได้แสดงไว้ และบัญญัติไว้ด้วยดี นั่นแหละจักเป็นศาสดาของเธอ สืบแทนเราตถาคต เมื่อเราล่วงไปแล้ว . #โครงการผ้าป่าพระไตรปิฏก_9_วัดป่ากรรมฐาน #สายหลวงปู่มั่น_ภูริทัตโต_ปี_2565 #ถวายพระไตรปิฏกฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย #พร้อมตู้ไม้สัก_จำนวน_9_วัด_9_จังหวัด (จังหวัดละ 1 วัด) สกลนคร บึงกาฬ มุกดาหาร อุดรธานี ยโสธร หนองคาย นครพนม หนองบัวลำภู และ เลย . ร่วมทำบุญกองบุญละ 100 บาท หรือตามกำลังศรัทธา บัญชีธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 6794178303 ชื่อบัญชี พระธีระเดช สุทธิบริบาล (บัญชีเพื่อโครงการถวายพระไตรปิฎก 2565) . หรือ ร่วมสั่งสมบุญด้วยการแชร์ บอกบุญเป็นสะพานบุญ . 🟡ปิดรับยอดบุญ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 (วันมาฆบูชา) 🟢ทอดถวายผ้าป่าวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2565 . #อานิสงส์ถวายพระไตรปิฎก ดั่งประทีปส่องทางให้เห็นนรกและสวรรค์ ผู้นั้นจะได้อานิสงส์เพิ่มพูน กุศลจริยาเป็นอเนกอนันต์ ได้รับชัยชนะต่อจิตใจตนเอง และผู้อื่น มีความรู้ การศึกษาสูง บังเกิดผลบุญอันยิ่งใหญ่ไพศาลท

คาถาเงินล้าน9จบ เสียงหลวงพ่อฤาษีลิงดํา

รูปภาพ

พุทธวจน  ลักษณะแห่งนิพพาน

รูปภาพ

พุทธวจน  ลักษณะแห่งนิพพาน

รูปภาพ

https://youtu.be/2sbKewvGpgA

https://youtu.be/2sbKewvGpgA

นิพพาน

 นิพพาน

https://youtu.be/strPCZK1kBk

 https://youtu.be/strPCZK1kBk

https://youtu.be/strPCZK1kBk

https://youtu.be/strPCZK1kBk

https://youtu.be/strPCZK1kBk

 https://youtu.be/strPCZK1kBk

https://youtu.be/strPCZK1kBk

https://youtu.be/strPCZK1kBk

นิพพาน

นิพพาน

นิพพาน

นิพพาน

นิพพาน

นิพพาน

นิพพาน

 นิพพาน

ไทย 13 อินเดีย 6

  ไทย 13 อินเดีย 6

ทุกเวลา16063

  ทุกเวลา 16063

เดือนที่ผ่านมา5424

เดือนที่ผ่านมา 5424

เดือนนี้70

เดือนนี้ 70

เมื่อวานนี้18

เมื่อวานนี้ 18

วันนี้0

วันนี้ 0

ไทย 13 อินเดีย 6

 ไทย 13 อินเดีย 6

ไทย 13 อินเดีย 6

 ไทย 13 อินเดีย 6

ไทย 13 อินเดีย 6

  ไทย 13 อินเดีย 6

ทุกเวลา16063

ทุกเวลา 16063

เดือนที่ผ่านมา5424

เดือนที่ผ่านมา 5424

เดือนนี้70

  เดือนนี้ 70

เมื่อวานนี้18

  เมื่อวานนี้ 18

วันนี้0

วันนี้ 0

วัดป่า

 วัดป่า

ดี

 ดี

จบ

จบ

ไทย 13 อินเดีย 6

ไทย 13 อินเดีย 6

ไทย 13 อินเดีย 6

ไทย 13 อินเดีย 6

ไทย 13 อินเดีย 6

 ไทย 13 อินเดีย 6

ไทย 13 อินเดีย 6

ไทย 13 อินเดีย 6

ไม่มีอะไร หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน จิตไม่ตาย หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่ของเรา แปลว่าไม่มีอะไรเป็นของเราชั่วนิจนิรันดร์ ไม่มีอะไรเป็นของเขาชั่วนิรันดร์

  ไม่มีอะไร หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน จิตไม่ตาย   หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่ของเรา   แปลว่าไม่มีอะไรเป็นของเราชั่วนิจนิรันดร์ ไม่มีอะไรเป็นของเขาชั่วนิรันดร์

บัญญัติ การตั้งขึ้น, ข้อที่ตั้งขึ้น, การกำหนดเรียก, การเรียกชื่อ, การวางเป็นกฏไว้, ข้อบังคับ สมมติ การรู้ร่วมกัน, การตกลงกัน, การมีมติร่วมกัน หรือยอมรับร่วมกัน สมมติสัจจะ จริงโดยสมมติ คือ โดยความตกลงหมายรู้ร่วมกันของมนุษย์ เช่น นาย ก. นาง ข. ช้าง ม้า วัว ควาย เงินบาท เงินจ๊าด เงินกีบ เป็นต้น ซึ่งเมื่อกล่าวตามสภาวะ หรือโดยปรมัตถ์แล้ว ก็เป็นเพียงสังขาร หรือนามรูป หรือขันธ์ ๕ เท่านั้น ตรงข้ามกับ ปรมัตถสัจจะ

บัญญัติ     การตั้งขึ้น, ข้อที่ตั้งขึ้น, การกำหนดเรียก,   การเรียกชื่อ,  การวางเป็นกฏไว้,  ข้อบังคับ      สมมติ      การรู้ร่วมกัน, การตกลงกัน, การมีมติร่วมกัน หรือยอมรับร่วมกัน        สมมติสัจจะ     จริงโดยสมมติ  คือ โดยความตกลงหมายรู้ร่วมกันของมนุษย์  เช่น  นาย ก. นาง ข.  ช้าง  ม้า  วัว  ควาย  เงินบาท  เงินจ๊าด  เงินกีบ  เป็นต้น  ซึ่งเมื่อกล่าวตามสภาวะ  หรือโดยปรมัตถ์แล้ว  ก็เป็นเพียงสังขาร  หรือนามรูป  หรือขันธ์ ๕ เท่านั้น  ตรงข้ามกับ  ปรมัตถสัจจะ  

ไม่มีอะไร หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน จิตไม่ตาย หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่ของเรา แปลว่าไม่มีอะไรเป็นของเราชั่วนิจนิรันดร์ ไม่มีอะไรเป็นของเขาชั่วนิรันดร์

  ไม่มีอะไร  หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน จิตไม่ตาย   หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่ของเรา   แปลว่าไม่มีอะไรเป็นของเราชั่วนิจนิรันดร์ ไม่มีอะไรเป็นของเขาชั่วนิรันดร์

ไม่มีอะไร หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน จิตไม่ตาย หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่ของเรา แปลว่าไม่มีอะไรเป็นของเราชั่วนิจนิรันดร์ ไม่มีอะไรเป็นของเขาชั่วนิรันดร์

ไม่มีอะไร หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน จิตไม่ตาย   หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่ของเรา   แปลว่าไม่มีอะไรเป็นของเราชั่วนิจนิรันดร์ ไม่มีอะไรเป็นของเขาชั่วนิรันดร์  

จบ

 จบ

ไทย 13 อินเดีย 6

 ไทย 13 อินเดีย 6

ไทย 13 อินเดีย 6

 ไทย 13 อินเดีย 6

ไทย 13 อินเดีย 6

 ไทย 13 อินเดีย 6

ไทย 13 อินเดีย 6

ไทย 13 อินเดีย 6  

ทุกเวลา16063

ทุกเวลา 16063

เดือนที่ผ่านมา5424

เดือนที่ผ่านมา 5424

เดือนนี้70

  เดือนนี้ 70

เมื่อวานนี้18

  เมื่อวานนี้ 18

วันนี้0

  วันนี้ 0

พระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนา

 พระพุทธศาสนา

ไทย 14

  ไทย 14

ทุกเวลา16045

ทุกเวลา 16045

เดือนที่ผ่านมา5424

เดือนที่ผ่านมา 5424

เดือนนี้52

  เดือนนี้ 52

เมื่อวานนี้0

เมื่อวานนี้ 0

วันนี้1

  วันนี้ 1

จบกิจในพระพุทธศาสนา

 จบกิจในพระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนา

 พระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนา

ไม่ยึดมั่น หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ ไม่ยึดมั่นในความคิด ความยินดียินร้ายก็ไม่เกิด

ไม่ยึดมั่น  หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ ไม่ยึดมั่นในความคิด ความยินดียินร้ายก็ไม่เกิด

ไม่ยึดมั่น หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ ไม่ยึดมั่นในความคิด ความยินดียินร้ายก็ไม่เกิด

ไม่ยึดมั่น หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ ไม่ยึดมั่นในความคิด ความยินดียินร้ายก็ไม่เกิด  

ไม่ยึดมั่น หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ ไม่ยึดมั่นในความคิด ความยินดียินร้ายก็ไม่เกิด

ไม่ยึดมั่น หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ ไม่ยึดมั่นในความคิด ความยินดียินร้ายก็ไม่เกิด  

ไม่ยึดมั่น หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ ไม่ยึดมั่นในความคิด ความยินดียินร้ายก็ไม่เกิด

  ไม่ยึดมั่น หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ ไม่ยึดมั่นในความคิด ความยินดียินร้ายก็ไม่เกิด

ไม่ยึดมั่น หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ ไม่ยึดมั่นในความคิด ความยินดียินร้ายก็ไม่เกิด

ไม่ยึดมั่น หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ ไม่ยึดมั่นในความคิด ความยินดียินร้ายก็ไม่เกิด  

พระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนา

prabhuddsasna

prabhuddsasna

ไปอยู่กับนิพพาน

ไปอยู่กับนิพพาน

เหมือนลูกจ้างรอรับค่าจ้าง

 เหมือนลูกจ้างรอรับค่าจ้าง

พระพุทธศาสนา

 พระพุทธศาสนา

จบ

จบ

จบ

 จบ

ไทย 14

ไทย 14

ทุกเวลา16045

ทุกเวลา 16045

เดือนที่ผ่านมา5424

เดือนที่ผ่านมา 5424

เดือนนี้52

เดือนนี้ 52

เมื่อวานนี้0

เมื่อวานนี้ 0

วันนี้1

วันนี้ 1

จบ

 จบ

แล้ว

แล้ว

จบแล้ว

 จบแล้ว

พระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนา

จบ

จบ

แล้ว

 แล้ว

พระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนา 

พระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนา 

พระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนา 

พระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนา 

พระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนา 

https://youtu.be/YgiHsQdBrIA

 https://youtu.be/YgiHsQdBrIA

https://youtu.be/YgiHsQdBrIA

https://youtu.be/YgiHsQdBrIA

https://youtu.be/YgiHsQdBrIA

https://youtu.be/YgiHsQdBrIA

https://youtu.be/YgiHsQdBrIA

https://youtu.be/YgiHsQdBrIA

พระพุทธศาสนา

 พระพุทธศาสนา

พระเจ้าห้าพระองค์

พระเจ้าห้าพระองค์

https://youtu.be/YgiHsQdBrIA

https://youtu.be/YgiHsQdBrIA

https://youtu.be/YgiHsQdBrIA

 https://youtu.be/YgiHsQdBrIA

https://youtu.be/YgiHsQdBrIA

https://youtu.be/YgiHsQdBrIA

https://youtu.be/YgiHsQdBrIA

https://youtu.be/YgiHsQdBrIA

ไทย2

 ไทย2

ทุกเวลา16045

ทุกเวลา16045

เดือนที่ผ่านมา5424

เดือนที่ผ่านมา5424

เดือนนี้52

เดือนนี้ 52

เมื่อวานนี้0

  เมื่อวานนี้ 0

วันนี้1

  วันนี้ 1

ไทย 2

ไทย 2

ทุกเวลา16045

ทุกเวลา 16045

เดือนที่ผ่านมา5424

เดือนที่ผ่านมา 5424

เดือนนี้52

เดือนนี้ 52

เมื่อวานนี้0

เมื่อวานนี้ 0

วันนี้1

  วันนี้ 1

ไทย1

ไทย1

ทุกเวลา16044

ทุกเวลา 16044

เดือนที่ผ่านมา5424

เดือนที่ผ่านมา 5424

เดือนนี้51

เดือนนี้ 51

เมื่อวานนี้0

เมื่อวานนี้ 0

วันนี้0

วันนี้ 0

พระประวัติของพระกกุสันธะ พระโกนาคมน์ พระกัสสปะ พระโคดม พระกกุสันธะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติ ในพระนครเขมวดี พระพุทธบิดาคือพราหมณ์นามว่า อัคคิทัตต์ พระพุทธมารดาคือ นางวิสาขาพราหมณี พระชายาเป็นพราหมณีพระนามว่า โรปินี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ กามวัฑฒะ กามสุทธิ และรติวัฑฒนะ เสด็จออกผนวชด้วยรถราชยาน ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ควงไม้สิรีสะ (ต้นซึก) พระโกนาคมน์ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า โสภวดี พุทธบิดานามว่า ยัญทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางอุตราพราหมณี ภรรยานามว่า นางรุจิคุตตาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ ดุสิต สันดุสิต และสันตุฏฐะ เสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ไม้มะเดื่อ พระกัสสปะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า พาราณสี มีกษัตริย์พระนามว่ากิกี พุทธบิดานามว่า พรหมทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางธนวดีพราหมณี ภรรยานามว่า นางสุนันทาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ หังษะ ยสะ และสิริจันทะ ทรงเสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ต้นนิโครธ พระโคดม ทรงเป็นกษัตริย์โดยพระชาติของนครชื่อว่า กบิลพัสดุ์ พระชนกพระนามว่า สุทโธทนะ พระชนนีพระนามว่า พระนางมายาเทวี พระมเหสีพระนามว่า ยโสธรา มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ สุจันทะ โกกนุทะ และโกญจะ เสด็จออกผนวชด้วยอัสวราชยาน ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ไม้อัสสัตถพฤกษ์

พระประวัติของพระกกุสันธะ พระโกนาคมน์ พระกัสสปะ พระโคดม  พระกกุสันธะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติ ในพระนครเขมวดี พระพุทธบิดาคือพราหมณ์นามว่า อัคคิทัตต์ พระพุทธมารดาคือ นางวิสาขาพราหมณี พระชายาเป็นพราหมณีพระนามว่า โรปินี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ กามวัฑฒะ กามสุทธิ และรติวัฑฒนะ เสด็จออกผนวชด้วยรถราชยาน ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ควงไม้สิรีสะ (ต้นซึก)  พระโกนาคมน์ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า โสภวดี พุทธบิดานามว่า ยัญทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางอุตราพราหมณี ภรรยานามว่า นางรุจิคุตตาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ ดุสิต สันดุสิต และสันตุฏฐะ เสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ไม้มะเดื่อ  พระกัสสปะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า พาราณสี มีกษัตริย์พระนามว่ากิกี พุทธบิดานามว่า พรหมทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางธนวดีพราหมณี ภรรยานามว่า นางสุนันทาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ หังษะ ยสะ และสิริจันทะ ทรงเสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ต้นนิโครธ  พระโคดม ทรงเป็นกษัตริย์โดยพระชาติของนครชื่อว่า กบิลพัสดุ์ พระชนกพระนามว

จบ

 จบ

ใจ

 ใจ

จบ

 จบ

พระประวัติของพระกกุสันธะ พระโกนาคมน์ พระกัสสปะ พระโคดม พระกกุสันธะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติ ในพระนครเขมวดี พระพุทธบิดาคือพราหมณ์นามว่า อัคคิทัตต์ พระพุทธมารดาคือ นางวิสาขาพราหมณี พระชายาเป็นพราหมณีพระนามว่า โรปินี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ กามวัฑฒะ กามสุทธิ และรติวัฑฒนะ เสด็จออกผนวชด้วยรถราชยาน ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ควงไม้สิรีสะ (ต้นซึก) พระโกนาคมน์ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า โสภวดี พุทธบิดานามว่า ยัญทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางอุตราพราหมณี ภรรยานามว่า นางรุจิคุตตาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ ดุสิต สันดุสิต และสันตุฏฐะ เสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ไม้มะเดื่อ พระกัสสปะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า พาราณสี มีกษัตริย์พระนามว่ากิกี พุทธบิดานามว่า พรหมทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางธนวดีพราหมณี ภรรยานามว่า นางสุนันทาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ หังษะ ยสะ และสิริจันทะ ทรงเสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ต้นนิโครธ พระโคดม ทรงเป็นกษัตริย์โดยพระชาติของนครชื่อว่า กบิลพัสดุ์ พระชนกพระนามว่า สุทโธทนะ พระชนนีพระนามว่า พระนางมายาเทวี พระมเหสีพระนามว่า ยโสธรา มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ สุจันทะ โกกนุทะ และโกญจะ เสด็จออกผนวชด้วยอัสวราชยาน ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ไม้อัสสัตถพฤกษ์

พระประวัติของพระกกุสันธะ พระโกนาคมน์ พระกัสสปะ พระโคดม  พระกกุสันธะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติ ในพระนครเขมวดี พระพุทธบิดาคือพราหมณ์นามว่า อัคคิทัตต์ พระพุทธมารดาคือ นางวิสาขาพราหมณี พระชายาเป็นพราหมณีพระนามว่า โรปินี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ กามวัฑฒะ กามสุทธิ และรติวัฑฒนะ เสด็จออกผนวชด้วยรถราชยาน ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ควงไม้สิรีสะ (ต้นซึก)  พระโกนาคมน์ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า โสภวดี พุทธบิดานามว่า ยัญทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางอุตราพราหมณี ภรรยานามว่า นางรุจิคุตตาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ ดุสิต สันดุสิต และสันตุฏฐะ เสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ไม้มะเดื่อ  พระกัสสปะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า พาราณสี มีกษัตริย์พระนามว่ากิกี พุทธบิดานามว่า พรหมทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางธนวดีพราหมณี ภรรยานามว่า นางสุนันทาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ หังษะ ยสะ และสิริจันทะ ทรงเสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ต้นนิโครธ  พระโคดม ทรงเป็นกษัตริย์โดยพระชาติของนครชื่อว่า กบิลพัสดุ์ พระชนกพระนามว

จบ

 จบ

เขียนได้น่ารักดีจึงนำมาฝาก​ 😁😁🌹 “ทันข่าว" ไม่ได้แปลว่า​ ทันโลก 🌎 "อ่านมาก" ไม่ได้แปลว่า​ รู้มาก 📚📖 "รู้มาก" ไม่ได้แปลว่า​ ฉลาด "เดินทางรอบโลก" ไม่ได้แปลว่า​ เข้าใจโลก "เสพข่าวมาก" ไม่ได้แปลว่า​ อ่านทะลุ "จบปริญญา" ไม่ได้แปลว่า​ เรียนจบแล้ว 🧑‍🎓 "ไม่ใส่น้ำตาล" ไม่ได้แปลว่า​ ไม่มีน้ำตาล "คิดก่อน" ไม่ได้แปลว่า​ เป็นผู้นำ "มีเงิน" ไม่ได้แปลว่า​ มีความสุข 💸💰 "ทำบุญ" ไม่ได้แปลว่า​ กิเลสหาย "อายุมาก" ไม่ได้แปลว่า​ น่านับถือ "เกรงใจ" ไม่ได้แปลว่า​ เคารพ "ก้าวไปข้างหน้า" ไม่ได้แปลว่า​ อยู่ข้างหน้า "หัวเราะเฮฮา" ไม่ได้แปลว่า​ มีสุข 😄 "อยู่คนเดียว" ไม่ได้แปลว่า​ เหงา☺️ "ตำหนิ" ไม่ได้แปลว่า ประสงค์ร้าย "วันหยุด" ไม่ได้แปลว่า งานหยุด "แต่งงาน" ไม่ได้แปลว่า​ เป็นเจ้าของ "พูดเก่ง" ไม่ได้แปลว่า​ ทำงานเก่ง "หน้าตาดี" ไม่ได้แปลว่า​ จิตใจดี 👱🏻‍♀️ "ได้นอน" ไม่ได้แปลว่า​ ได้พักผ่อน "มีอำนาจ" ไม่ได้แปลว่า​ เป็นเจ้าของคน "รวย" ไม่ได้แปลว่า​ ไม่เป็นหนี้ "กินดีอยู่ดี" ไม่ได้แปลว่า​ ชีวิตที่ดี "เลี้ยงลูก" ไม่ได้แปลว่า​ ลูกจะเลี้ยง "ทำดี" ไม่ได้แปลว่า​ จะได้ดี "อยู่เฉยๆ" ไม่ได้แปลว่าว่าง…!!! "ยอม" ไม่ได้แปลว่า​ กลัว "ไม่อยากซักผ้า" ไม่ได้แปลว่าจะไม่ซัก 🤣

รูปภาพ
เขียนได้น่ารักดีจึงนำมาฝาก​  “ทันข่าว" ไม่ได้แปลว่า​ ทันโลก  "อ่านมาก" ไม่ได้แปลว่า​ รู้มาก  "รู้มาก" ไม่ได้แปลว่า​ ฉลาด "เดินทางรอบโลก" ไม่ได้แปลว่า​ เข้าใจโลก "เสพข่าวมาก" ไม่ได้แปลว่า​ อ่านทะลุ "จบปริญญา" ไม่ได้แปลว่า​ เรียนจบแล้ว  "ไม่ใส่น้ำตาล" ไม่ได้แปลว่า​ ไม่มีน้ำตาล "คิดก่อน" ไม่ได้แปลว่า​ เป็นผู้นำ "มีเงิน" ไม่ได้แปลว่า​ มีความสุข  "ทำบุญ" ไม่ได้แปลว่า​ กิเลสหาย "อายุมาก" ไม่ได้แปลว่า​ น่านับถือ "เกรงใจ" ไม่ได้แปลว่า​ เคารพ "ก้าวไปข้างหน้า" ไม่ได้แปลว่า​ อยู่ข้างหน้า "หัวเราะเฮฮา" ไม่ได้แปลว่า​ มีสุข  "อยู่คนเดียว" ไม่ได้แปลว่า​ เหงา "ตำหนิ" ไม่ได้แปลว่า ประสงค์ร้าย "วันหยุด" ไม่ได้แปลว่า งานหยุด "แต่งงาน" ไม่ได้แปลว่า​ เป็นเจ้าของ "พูดเก่ง" ไม่ได้แปลว่า​ ทำงานเก่ง "หน้าตาดี" ไม่ได้แปลว่า​ จิตใจดี  "ได้นอน" ไม่ได้แปลว่า​ ได้พักผ่อน "มีอำนาจ" ไม่ได้แปลว่า​ เป็นเจ้าข

พระประวัติของพระกกุสันธะ พระโกนาคมน์ พระกัสสปะ พระโคดม พระกกุสันธะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติ ในพระนครเขมวดี พระพุทธบิดาคือพราหมณ์นามว่า อัคคิทัตต์ พระพุทธมารดาคือ นางวิสาขาพราหมณี พระชายาเป็นพราหมณีพระนามว่า โรปินี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ กามวัฑฒะ กามสุทธิ และรติวัฑฒนะ เสด็จออกผนวชด้วยรถราชยาน ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ควงไม้สิรีสะ (ต้นซึก) พระโกนาคมน์ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า โสภวดี พุทธบิดานามว่า ยัญทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางอุตราพราหมณี ภรรยานามว่า นางรุจิคุตตาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ ดุสิต สันดุสิต และสันตุฏฐะ เสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ไม้มะเดื่อ พระกัสสปะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า พาราณสี มีกษัตริย์พระนามว่ากิกี พุทธบิดานามว่า พรหมทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางธนวดีพราหมณี ภรรยานามว่า นางสุนันทาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ หังษะ ยสะ และสิริจันทะ ทรงเสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ต้นนิโครธ พระโคดม ทรงเป็นกษัตริย์โดยพระชาติของนครชื่อว่า กบิลพัสดุ์ พระชนกพระนามว่า สุทโธทนะ พระชนนีพระนามว่า พระนางมายาเทวี พระมเหสีพระนามว่า ยโสธรา มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ สุจันทะ โกกนุทะ และโกญจะ เสด็จออกผนวชด้วยอัสวราชยาน ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ไม้อัสสัตถพฤกษ์

 พระประวัติของพระกกุสันธะ พระโกนาคมน์ พระกัสสปะ พระโคดม  พระกกุสันธะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติ ในพระนครเขมวดี พระพุทธบิดาคือพราหมณ์นามว่า อัคคิทัตต์ พระพุทธมารดาคือ นางวิสาขาพราหมณี พระชายาเป็นพราหมณีพระนามว่า โรปินี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ กามวัฑฒะ กามสุทธิ และรติวัฑฒนะ เสด็จออกผนวชด้วยรถราชยาน ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ควงไม้สิรีสะ (ต้นซึก)  พระโกนาคมน์ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า โสภวดี พุทธบิดานามว่า ยัญทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางอุตราพราหมณี ภรรยานามว่า นางรุจิคุตตาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ ดุสิต สันดุสิต และสันตุฏฐะ เสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ไม้มะเดื่อ  พระกัสสปะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า พาราณสี มีกษัตริย์พระนามว่ากิกี พุทธบิดานามว่า พรหมทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางธนวดีพราหมณี ภรรยานามว่า นางสุนันทาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ หังษะ ยสะ และสิริจันทะ ทรงเสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ต้นนิโครธ  พระโคดม ทรงเป็นกษัตริย์โดยพระชาติของนครชื่อว่า กบิลพัสดุ์ พระชนกพระนาม

พระประวัติของพระกกุสันธะ พระโกนาคมน์ พระกัสสปะ พระโคดม พระกกุสันธะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติ ในพระนครเขมวดี พระพุทธบิดาคือพราหมณ์นามว่า อัคคิทัตต์ พระพุทธมารดาคือ นางวิสาขาพราหมณี พระชายาเป็นพราหมณีพระนามว่า โรปินี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ กามวัฑฒะ กามสุทธิ และรติวัฑฒนะ เสด็จออกผนวชด้วยรถราชยาน ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ควงไม้สิรีสะ (ต้นซึก) พระโกนาคมน์ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า โสภวดี พุทธบิดานามว่า ยัญทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางอุตราพราหมณี ภรรยานามว่า นางรุจิคุตตาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ ดุสิต สันดุสิต และสันตุฏฐะ เสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ไม้มะเดื่อ พระกัสสปะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า พาราณสี มีกษัตริย์พระนามว่ากิกี พุทธบิดานามว่า พรหมทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางธนวดีพราหมณี ภรรยานามว่า นางสุนันทาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ หังษะ ยสะ และสิริจันทะ ทรงเสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ต้นนิโครธ พระโคดม ทรงเป็นกษัตริย์โดยพระชาติของนครชื่อว่า กบิลพัสดุ์ พระชนกพระนามว่า สุทโธทนะ พระชนนีพระนามว่า พระนางมายาเทวี พระมเหสีพระนามว่า ยโสธรา มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ สุจันทะ โกกนุทะ และโกญจะ เสด็จออกผนวชด้วยอัสวราชยาน ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ไม้อัสสัตถพฤกษ์

 พระประวัติของพระกกุสันธะ พระโกนาคมน์ พระกัสสปะ พระโคดม  พระกกุสันธะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติ ในพระนครเขมวดี พระพุทธบิดาคือพราหมณ์นามว่า อัคคิทัตต์ พระพุทธมารดาคือ นางวิสาขาพราหมณี พระชายาเป็นพราหมณีพระนามว่า โรปินี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ กามวัฑฒะ กามสุทธิ และรติวัฑฒนะ เสด็จออกผนวชด้วยรถราชยาน ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ควงไม้สิรีสะ (ต้นซึก)  พระโกนาคมน์ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า โสภวดี พุทธบิดานามว่า ยัญทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางอุตราพราหมณี ภรรยานามว่า นางรุจิคุตตาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ ดุสิต สันดุสิต และสันตุฏฐะ เสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ไม้มะเดื่อ  พระกัสสปะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า พาราณสี มีกษัตริย์พระนามว่ากิกี พุทธบิดานามว่า พรหมทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางธนวดีพราหมณี ภรรยานามว่า นางสุนันทาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ หังษะ ยสะ และสิริจันทะ ทรงเสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ต้นนิโครธ  พระโคดม ทรงเป็นกษัตริย์โดยพระชาติของนครชื่อว่า กบิลพัสดุ์ พระชนกพระนาม

พระประวัติของพระกกุสันธะ พระโกนาคมน์ พระกัสสปะ พระโคดม พระกกุสันธะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติ ในพระนครเขมวดี พระพุทธบิดาคือพราหมณ์นามว่า อัคคิทัตต์ พระพุทธมารดาคือ นางวิสาขาพราหมณี พระชายาเป็นพราหมณีพระนามว่า โรปินี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ กามวัฑฒะ กามสุทธิ และรติวัฑฒนะ เสด็จออกผนวชด้วยรถราชยาน ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ควงไม้สิรีสะ (ต้นซึก) พระโกนาคมน์ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า โสภวดี พุทธบิดานามว่า ยัญทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางอุตราพราหมณี ภรรยานามว่า นางรุจิคุตตาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ ดุสิต สันดุสิต และสันตุฏฐะ เสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ไม้มะเดื่อ พระกัสสปะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า พาราณสี มีกษัตริย์พระนามว่ากิกี พุทธบิดานามว่า พรหมทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางธนวดีพราหมณี ภรรยานามว่า นางสุนันทาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ หังษะ ยสะ และสิริจันทะ ทรงเสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ต้นนิโครธ พระโคดม ทรงเป็นกษัตริย์โดยพระชาติของนครชื่อว่า กบิลพัสดุ์ พระชนกพระนามว่า สุทโธทนะ พระชนนีพระนามว่า พระนางมายาเทวี พระมเหสีพระนามว่า ยโสธรา มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ สุจันทะ โกกนุทะ และโกญจะ เสด็จออกผนวชด้วยอัสวราชยาน ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ไม้อัสสัตถพฤกษ์

พระประวัติของพระกกุสันธะ พระโกนาคมน์ พระกัสสปะ พระโคดม  พระกกุสันธะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติ ในพระนครเขมวดี พระพุทธบิดาคือพราหมณ์นามว่า อัคคิทัตต์ พระพุทธมารดาคือ นางวิสาขาพราหมณี พระชายาเป็นพราหมณีพระนามว่า โรปินี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ กามวัฑฒะ กามสุทธิ และรติวัฑฒนะ เสด็จออกผนวชด้วยรถราชยาน ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ควงไม้สิรีสะ (ต้นซึก)  พระโกนาคมน์ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า โสภวดี พุทธบิดานามว่า ยัญทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางอุตราพราหมณี ภรรยานามว่า นางรุจิคุตตาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ ดุสิต สันดุสิต และสันตุฏฐะ เสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ไม้มะเดื่อ  พระกัสสปะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า พาราณสี มีกษัตริย์พระนามว่ากิกี พุทธบิดานามว่า พรหมทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางธนวดีพราหมณี ภรรยานามว่า นางสุนันทาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ หังษะ ยสะ และสิริจันทะ ทรงเสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ต้นนิโครธ  พระโคดม ทรงเป็นกษัตริย์โดยพระชาติของนครชื่อว่า กบิลพัสดุ์ พระชนกพระนามว

จบ

จบ

แล้ว

 แล้ว

พระประวัติของพระกกุสันธะ พระโกนาคมน์ พระกัสสปะ พระโคดม พระกกุสันธะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติ ในพระนครเขมวดี พระพุทธบิดาคือพราหมณ์นามว่า อัคคิทัตต์ พระพุทธมารดาคือ นางวิสาขาพราหมณี พระชายาเป็นพราหมณีพระนามว่า โรปินี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ กามวัฑฒะ กามสุทธิ และรติวัฑฒนะ เสด็จออกผนวชด้วยรถราชยาน ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ควงไม้สิรีสะ (ต้นซึก) พระโกนาคมน์ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า โสภวดี พุทธบิดานามว่า ยัญทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางอุตราพราหมณี ภรรยานามว่า นางรุจิคุตตาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ ดุสิต สันดุสิต และสันตุฏฐะ เสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ไม้มะเดื่อ พระกัสสปะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า พาราณสี มีกษัตริย์พระนามว่ากิกี พุทธบิดานามว่า พรหมทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางธนวดีพราหมณี ภรรยานามว่า นางสุนันทาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ หังษะ ยสะ และสิริจันทะ ทรงเสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ต้นนิโครธ พระโคดม ทรงเป็นกษัตริย์โดยพระชาติของนครชื่อว่า กบิลพัสดุ์ พระชนกพระนามว่า สุทโธทนะ พระชนนีพระนามว่า พระนางมายาเทวี พระมเหสีพระนามว่า ยโสธรา มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ สุจันทะ โกกนุทะ และโกญจะ เสด็จออกผนวชด้วยอัสวราชยาน ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ไม้อัสสัตถพฤกษ์

พระประวัติของพระกกุสันธะ พระโกนาคมน์ พระกัสสปะ พระโคดม  พระกกุสันธะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติ ในพระนครเขมวดี พระพุทธบิดาคือพราหมณ์นามว่า อัคคิทัตต์ พระพุทธมารดาคือ นางวิสาขาพราหมณี พระชายาเป็นพราหมณีพระนามว่า โรปินี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ กามวัฑฒะ กามสุทธิ และรติวัฑฒนะ เสด็จออกผนวชด้วยรถราชยาน ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ควงไม้สิรีสะ (ต้นซึก)  พระโกนาคมน์ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า โสภวดี พุทธบิดานามว่า ยัญทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางอุตราพราหมณี ภรรยานามว่า นางรุจิคุตตาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ ดุสิต สันดุสิต และสันตุฏฐะ เสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ไม้มะเดื่อ  พระกัสสปะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า พาราณสี มีกษัตริย์พระนามว่ากิกี พุทธบิดานามว่า พรหมทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางธนวดีพราหมณี ภรรยานามว่า นางสุนันทาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ หังษะ ยสะ และสิริจันทะ ทรงเสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ต้นนิโครธ  พระโคดม ทรงเป็นกษัตริย์โดยพระชาติของนครชื่อว่า กบิลพัสดุ์ พระชนกพระนามว

พระประวัติของพระกกุสันธะ พระโกนาคมน์ พระกัสสปะ พระโคดม พระกกุสันธะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติ ในพระนครเขมวดี พระพุทธบิดาคือพราหมณ์นามว่า อัคคิทัตต์ พระพุทธมารดาคือ นางวิสาขาพราหมณี พระชายาเป็นพราหมณีพระนามว่า โรปินี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ กามวัฑฒะ กามสุทธิ และรติวัฑฒนะ เสด็จออกผนวชด้วยรถราชยาน ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ควงไม้สิรีสะ (ต้นซึก) พระโกนาคมน์ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า โสภวดี พุทธบิดานามว่า ยัญทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางอุตราพราหมณี ภรรยานามว่า นางรุจิคุตตาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ ดุสิต สันดุสิต และสันตุฏฐะ เสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ไม้มะเดื่อ พระกัสสปะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า พาราณสี มีกษัตริย์พระนามว่ากิกี พุทธบิดานามว่า พรหมทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางธนวดีพราหมณี ภรรยานามว่า นางสุนันทาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ หังษะ ยสะ และสิริจันทะ ทรงเสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ต้นนิโครธ พระโคดม ทรงเป็นกษัตริย์โดยพระชาติของนครชื่อว่า กบิลพัสดุ์ พระชนกพระนามว่า สุทโธทนะ พระชนนีพระนามว่า พระนางมายาเทวี พระมเหสีพระนามว่า ยโสธรา มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ สุจันทะ โกกนุทะ และโกญจะ เสด็จออกผนวชด้วยอัสวราชยาน ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ไม้อัสสัตถพฤกษ์

 พระประวัติของพระกกุสันธะ พระโกนาคมน์ พระกัสสปะ พระโคดม  พระกกุสันธะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติ ในพระนครเขมวดี พระพุทธบิดาคือพราหมณ์นามว่า อัคคิทัตต์ พระพุทธมารดาคือ นางวิสาขาพราหมณี พระชายาเป็นพราหมณีพระนามว่า โรปินี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ กามวัฑฒะ กามสุทธิ และรติวัฑฒนะ เสด็จออกผนวชด้วยรถราชยาน ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ควงไม้สิรีสะ (ต้นซึก)  พระโกนาคมน์ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า โสภวดี พุทธบิดานามว่า ยัญทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางอุตราพราหมณี ภรรยานามว่า นางรุจิคุตตาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ ดุสิต สันดุสิต และสันตุฏฐะ เสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ไม้มะเดื่อ  พระกัสสปะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า พาราณสี มีกษัตริย์พระนามว่ากิกี พุทธบิดานามว่า พรหมทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางธนวดีพราหมณี ภรรยานามว่า นางสุนันทาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ หังษะ ยสะ และสิริจันทะ ทรงเสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ต้นนิโครธ  พระโคดม ทรงเป็นกษัตริย์โดยพระชาติของนครชื่อว่า กบิลพัสดุ์ พระชนกพระนาม

พระประวัติของพระกกุสันธะ พระโกนาคมน์ พระกัสสปะ พระโคดม พระกกุสันธะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติ ในพระนครเขมวดี พระพุทธบิดาคือพราหมณ์นามว่า อัคคิทัตต์ พระพุทธมารดาคือ นางวิสาขาพราหมณี พระชายาเป็นพราหมณีพระนามว่า โรปินี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ กามวัฑฒะ กามสุทธิ และรติวัฑฒนะ เสด็จออกผนวชด้วยรถราชยาน ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ควงไม้สิรีสะ (ต้นซึก) พระโกนาคมน์ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า โสภวดี พุทธบิดานามว่า ยัญทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางอุตราพราหมณี ภรรยานามว่า นางรุจิคุตตาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ ดุสิต สันดุสิต และสันตุฏฐะ เสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ไม้มะเดื่อ พระกัสสปะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า พาราณสี มีกษัตริย์พระนามว่ากิกี พุทธบิดานามว่า พรหมทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางธนวดีพราหมณี ภรรยานามว่า นางสุนันทาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ หังษะ ยสะ และสิริจันทะ ทรงเสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ต้นนิโครธ พระโคดม ทรงเป็นกษัตริย์โดยพระชาติของนครชื่อว่า กบิลพัสดุ์ พระชนกพระนามว่า สุทโธทนะ พระชนนีพระนามว่า พระนางมายาเทวี พระมเหสีพระนามว่า ยโสธรา มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ สุจันทะ โกกนุทะ และโกญจะ เสด็จออกผนวชด้วยอัสวราชยาน ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ไม้อัสสัตถพฤกษ์

พระประวัติของพระกกุสันธะ พระโกนาคมน์ พระกัสสปะ พระโคดม พระกกุสันธะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติ ในพระนครเขมวดี พระพุทธบิดาคือพราหมณ์นามว่า อัคคิทัตต์ พระพุทธมารดาคือ นางวิสาขาพราหมณี พระชายาเป็นพราหมณีพระนามว่า โรปินี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ กามวัฑฒะ กามสุทธิ และรติวัฑฒนะ เสด็จออกผนวชด้วยรถราชยาน ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ควงไม้สิรีสะ (ต้นซึก) พระโกนาคมน์ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า โสภวดี พุทธบิดานามว่า ยัญทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางอุตราพราหมณี ภรรยานามว่า นางรุจิคุตตาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ ดุสิต สันดุสิต และสันตุฏฐะ เสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ไม้มะเดื่อ พระกัสสปะ ทรงเป็นพราหมณ์โดยพระชาติในพระนครชื่อว่า พาราณสี มีกษัตริย์พระนามว่ากิกี พุทธบิดานามว่า พรหมทัตตพราหมณ์ พุทธมารดานามว่า นางธนวดีพราหมณี ภรรยานามว่า นางสุนันทาพราหมณี มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ หังษะ ยสะ และสิริจันทะ ทรงเสด็จออกผนวชด้วยยานช้างอันเป็นยานพาหนะ ไม้โพธิพฤกษ์ คือ ต้นนิโครธ พระโคดม ทรงเป็นกษัตริย์โดยพระชาติของนครชื่อว่า กบิลพัสดุ์ พระชนกพระนามว่า ส

ไทย1

 ไทย1

ทุกเวลา16044

  ทุกเวลา 16044

เดือนที่ผ่านมา5424

เดือนที่ผ่านมา 5424

เดือนนี้51

เดือนนี้ 51

เมื่อวานนี้0

เมื่อวานนี้ 0

วันนี้0

วันนี้ 0

ไทย 1

  ไทย 1

ทุกเวลา16044

ทุกเวลา 16044

เดือนที่ผ่านมา5424

เดือนที่ผ่านมา 5424

เดือนนี้51

เดือนนี้ 51

เมื่อวานนี้0

เมื่อวานนี้ 0

วันนี้0

วันนี้ 0

สัปดาห์นี้ มีปัญหาต้องคิดและตัดสินใจครั้งสำคัญ การตัดภาระค่าใช้จ่ายครั้งใหญ่ เป็นเรื่องที่ยากลำบาก การสูญเสียมันจะเกิดขึ้นไม่ว่าเราจะตัดสินใจอย่างไร ผมลองคิดทบทวน หาแนวทางแก้ปัญหาในระยะสั้นและระยะยาว ก็ได้ข้อสรุปทางออก เป็นทางเลือกที่ต้องปรับระบบการจ้างงาน ซึ่งก็มีผลทำให้รายได้ รายจ่ายของผู้ที่ทำงานร่วมกับเรามาอย่างยาวนานอย่างเลี่ยงไม่ได้ งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ภาษิตนี้ยังวนเวียนอยู่ในหัว ไม่ว่าเหตุการณ์ใด ๆ ในชีวิตคนเราก็ต้องมีสักครั้งที่ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ เมื่อเกิดแผลก็ต้องปิดแผลก่อน การให้เลือดโดยไม่ปิดแผล ผมพิสูจน์มาหลายเดือนแล้วว่ามันไม่ใช่หนทางที่ถูกต้อง เคยเขียน blog เนื้อหาเรื่องการตัดค่าใช้จ่ายไว้หลายปีแล้ว เขียนเป็นวรรคเป็นเวร ไม่คิดว่าวันหนึ่ง เราต้องมานั่งอ่าน blog ตัวเอง แล้วก็ทำตามสิ่งที่ตัวเองเขียน มีหลายคนก็เข้าใจและให้กำลังใจ คิดว่าคงผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลายาวนานถึง 2 ปี แต่นั่นก็ต้องทำ และวางแผนสำหรับการฟื้นฟูกิจการตัวผมเอง มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับ คนที่มีความคาดหวังและจินตนาการถึงความสำเร็จเกินตัวอย่างผม แต่เมื่อไม่เป็นอย่างที่คิด แนวทางการแก้ปัญหาแรก เมื่อไม่สำเร็จ ก็แนวทางที่สอง และสาม ตอนนี้เข้าขั้นที่เรียกว่าจนมุมแล้ว ไฟป่าตามธรรมชาติมันเกิดขึ้น ร้างผลาญชีวิตในป่า แต่เมื่อไฟสงบ และถึงฤดูฝน ผืนป่าก็พร้อมจะงอกเงยและเติบโตขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ผมเชื่ออย่างนั้น...

สัปดาห์นี้   มีปัญหาต้องคิดและตัดสินใจครั้งสำคัญ การตัดภาระค่าใช้จ่ายครั้งใหญ่ เป็นเรื่องที่ยากลำบาก การสูญเสียมันจะเกิดขึ้นไม่ว่าเราจะตัดสินใจอย่างไร ผมลองคิดทบทวน หาแนวทางแก้ปัญหาในระยะสั้นและระยะยาว ก็ได้ข้อสรุปทางออก เป็นทางเลือกที่ต้องปรับระบบการจ้างงาน ซึ่งก็มีผลทำให้รายได้ รายจ่ายของผู้ที่ทำงานร่วมกับเรามาอย่างยาวนานอย่างเลี่ยงไม่ได้ งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ภาษิตนี้ยังวนเวียนอยู่ในหัว ไม่ว่าเหตุการณ์ใด ๆ ในชีวิตคนเราก็ต้องมีสักครั้งที่ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ เมื่อเกิดแผลก็ต้องปิดแผลก่อน การให้เลือดโดยไม่ปิดแผล ผมพิสูจน์มาหลายเดือนแล้วว่ามันไม่ใช่หนทางที่ถูกต้อง เคยเขียน blog เนื้อหาเรื่องการตัดค่าใช้จ่ายไว้หลายปีแล้ว เขียนเป็นวรรคเป็นเวร ไม่คิดว่าวันหนึ่ง เราต้องมานั่งอ่าน blog ตัวเอง แล้วก็ทำตามสิ่งที่ตัวเองเขียน  มีหลายคนก็เข้าใจและให้กำลังใจ คิดว่าคงผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลายาวนานถึง 2 ปี แต่นั่นก็ต้องทำ และวางแผนสำหรับการฟื้นฟูกิจการตัวผมเอง มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับ คนที่มีความคาดหวังและจินตนาการถึงความสำเร็จเกินตัวอย่างผม แต่เมื่อไม่เป็นอย่างที่คิด แน

พระพุทธศาสนา

 พระพุทธศาสนา

จักว่าแล้วหรือบ่แล้ว

จักว่าแล้วหรือบ่แล้ว

เขียนได้น่ารักดีจึงนำมาฝาก​ 😁😁🌹 “ทันข่าว" ไม่ได้แปลว่า​ ทันโลก 🌎 "อ่านมาก" ไม่ได้แปลว่า​ รู้มาก 📚📖 "รู้มาก" ไม่ได้แปลว่า​ ฉลาด "เดินทางรอบโลก" ไม่ได้แปลว่า​ เข้าใจโลก "เสพข่าวมาก" ไม่ได้แปลว่า​ อ่านทะลุ "จบปริญญา" ไม่ได้แปลว่า​ เรียนจบแล้ว 🧑‍🎓 "ไม่ใส่น้ำตาล" ไม่ได้แปลว่า​ ไม่มีน้ำตาล "คิดก่อน" ไม่ได้แปลว่า​ เป็นผู้นำ "มีเงิน" ไม่ได้แปลว่า​ มีความสุข 💸💰 "ทำบุญ" ไม่ได้แปลว่า​ กิเลสหาย "อายุมาก" ไม่ได้แปลว่า​ น่านับถือ "เกรงใจ" ไม่ได้แปลว่า​ เคารพ "ก้าวไปข้างหน้า" ไม่ได้แปลว่า​ อยู่ข้างหน้า "หัวเราะเฮฮา" ไม่ได้แปลว่า​ มีสุข 😄 "อยู่คนเดียว" ไม่ได้แปลว่า​ เหงา☺️ "ตำหนิ" ไม่ได้แปลว่า ประสงค์ร้าย "วันหยุด" ไม่ได้แปลว่า งานหยุด "แต่งงาน" ไม่ได้แปลว่า​ เป็นเจ้าของ "พูดเก่ง" ไม่ได้แปลว่า​ ทำงานเก่ง "หน้าตาดี" ไม่ได้แปลว่า​ จิตใจดี 👱🏻‍♀️ "ได้นอน" ไม่ได้แปลว่า​ ได้พักผ่อน "มีอำนาจ" ไม่ได้แปลว่า​ เป็นเจ้าของคน "รวย" ไม่ได้แปลว่า​ ไม่เป็นหนี้ "กินดีอยู่ดี" ไม่ได้แปลว่า​ ชีวิตที่ดี "เลี้ยงลูก" ไม่ได้แปลว่า​ ลูกจะเลี้ยง "ทำดี" ไม่ได้แปลว่า​ จะได้ดี "อยู่เฉยๆ" ไม่ได้แปลว่าว่าง…!!! "ยอม" ไม่ได้แปลว่า​ กลัว "ไม่อยากซักผ้า" ไม่ได้แปลว่าจะไม่ซัก 🤣

รูปภาพ
  เขียนได้น่ารักดีจึงนำมาฝาก​ “ทันข่าว" ไม่ได้แปลว่า​ ทันโลก "อ่านมาก" ไม่ได้แปลว่า​ รู้มาก "รู้มาก" ไม่ได้แปลว่า​ ฉลาด "เดินทางรอบโลก" ไม่ได้แปลว่า​ เข้าใจโลก "เสพข่าวมาก" ไม่ได้แปลว่า​ อ่านทะลุ "จบปริญญา" ไม่ได้แปลว่า​ เรียนจบแล้ว "ไม่ใส่น้ำตาล" ไม่ได้แปลว่า​ ไม่มีน้ำตาล "คิดก่อน" ไม่ได้แปลว่า​ เป็นผู้นำ "มีเงิน" ไม่ได้แปลว่า​ มีความสุข "ทำบุญ" ไม่ได้แปลว่า​ กิเลสหาย "อายุมาก" ไม่ได้แปลว่า​ น่านับถือ "เกรงใจ" ไม่ได้แปลว่า​ เคารพ "ก้าวไปข้างหน้า" ไม่ได้แปลว่า​ อยู่ข้างหน้า "หัวเราะเฮฮา" ไม่ได้แปลว่า​ มีสุข "อยู่คนเดียว" ไม่ได้แปลว่า​ เหงา "ตำหนิ" ไม่ได้แปลว่า ประสงค์ร้าย "วันหยุด" ไม่ได้แปลว่า งานหยุด "แต่งงาน" ไม่ได้แปลว่า​ เป็นเจ้าของ "พูดเก่ง" ไม่ได้แปลว่า​ ทำงานเก่ง "หน้าตาดี" ไม่ได้แปลว่า​ จิตใจดี "ได้นอน" ไม่ได้แปลว่า​ ได้พักผ่อน "มีอำนาจ" ไม่ได้แปลว่า​ เป็นเจ้าขอ